แพทย์เตือนโควิด-19ทำเปิดเทอมยาวกระทบการเจริญเติบโตเด็กยากจนด้อยโอกาส ต้องหันมาช่วยกันทุกส่วน นักโภชนาการด้านอาหารชี้หากกินไม่พอทำสมองฝ่อกระทบการเรียนและร่างกาย
รศ.พญ.ลัดดา เหมาะสุวรรณ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19ทำให้เลื่อนเปิดเทอมนานขึ้น ส่งผลให้เด็กยากจนด้อยโอกาส ได้รับผลกระทบด้านโภชนาการ เนื่องจากมื้ออาหารที่โรงเรียนถือว่าดีที่สุดมีคุณค่าโภชนาการครบถ้วน เด็กบางคนขาดแคลนจริงๆ เมื่อไม่ได้ไปโรงเรียนก็จะไม่ได้สารอาหารที่ครบถ้วนมีผลกระทบกับการเจริญเติบโต กระทบกับการทำงานของสมองและการเรียนรู้ต่อไป จากที่รู้กันมาโรค COVID-19 นี้น่าจะอยู่กับเราไปอีกเป็นปี ดังนั้นเรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยทิ้งนานได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของอาหารกายอย่างเดียว แต่รวมถึงอาหารจิตใจด้วย ทิ้งไปไม่ได้
"ต่อไปนี้ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งอีกแล้ว ไม่ใช่พอเป็นเรื่องเรียนให้คุณครูทำไป เรื่องสุขภาพก็ไม่ใช่แค่คุณหมอ คุณพยาบาลต้องดูแลอย่างเดียว จะยกให้ใครไม่ได้ ต้องช่วยกันตอนนี้ ในระยะยาว หากเด็กๆ กลุ่มนี้จะพึ่งถุงยังชีพอย่างเดียวอาจไม่พอ สิ่งที่ห่วงที่สุดคือกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงข้อมูลดิจิทัล ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องช่วยกันสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจกันอย่างทั่วถึง ใช้วิธีที่เหมาะสมกับบริบท สภาพแวดล้อมของพื้นที่นั้นๆ ต่อไป" รศ.พญ.ลัดดา กล่าว
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ที่ปรึกษาโครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้อง” กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 มีเด็กนักเรียนยากจนพิเศษกว่า 753,997 คน กำลังขาดแคลนอาหารจากการปิดเทอมที่ยาวนานไปถึง 46 วัน ซึ่งเด็กวัยเรียนเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา สมอง ดังนั้น เราต้องให้อาหารเด็กได้รับสารอาหารที่ครบ 5 หมู่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรท ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ หากขาดตัวใดตัวหนึ่งหรือกินไม่พอ ก็อาจมีอาการสมองฝ่อ ร่างกายเตี้ย ผอมแคระแกร็น มีผลการเรียนและการพัฒนาสติปัญญาร่างกายด้อยกว่าเด็กปกติ
อย่างไรก็ตาม เหตุผลนี้กสศ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงร่วมมือบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยการโอนเงินไปให้โรงเรียนซื้อข้าวสาร อาหารแห้งที่เป็นประโยชน์เป็นถุงยังชีพแจกเด็ก และภายในถุงยังชีพมูลค่า 600 บาท สำหรับเป็นค่าอาหารเบื้องต้น 30 วัน จะประกอบไปด้วย ข้าวสาร 20 กก. ไข่ไก่ 36 ฟอง ปลากระป๋อง 10 กระป๋อง นม น้ำมันพืชช่วยลดความหิวโหย ลดการขาดสารอาหาร
นอกจากนี้ กสศ. ยังได้ริเริ่มโครงการรณรงค์ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือ เพื่อมื้อน้อง” พร้อมเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมสมทบเติมเต็มมื้ออาหารอีก 15 วันที่ยังขาดแคลนให้กับเด็กๆกลุ่มนี้ เพื่อก้าวผ่านวิกฤตและมีโอกาสกลับมาเรียนอีกครั้งเมื่อเปิดเทอมใหม่มาถึง ทุกคนสามารถร่วมบริจาคช่วยเหลือน้องๆ ไปกับโครงการนี้ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย เลขที่ 172-0-30021-6 ชื่อบัญชี “กสศ.-มาตรา 6(6) - เงินบริจาค” สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า www.eef.or.th/donate-covid/ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-079-5475