โฆษกตำรวจเตือนคนมีพฤติการณ์ท้าทายกฎหมายให้หยุดการกระทำ ชี้สงกรานต์นี้ต้องช่วยกันป้องกันแพร่ระบาด เผยจับดำเนินคดีเด็ดขาดกลุ่มวัยรุ่นฝ่าฝืนเล่นสงกรานต์ที่ร้อยเอ็ด

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผช.ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีสังคมออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์คลิปกลุ่มวัยรุ่น ในจังหวัดร้อยเอ็ด รวมกลุ่มตั้งวงดื่มสุรา เล่นสาดน้ำ และพูดจาท้าทายไม่เกรงกลัวกฎหมายนั้น

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการไปยัง ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้เร่งตรวจสอบและติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่น ดังกล่าวโดยเร็ว ซึ่งจากการตรวจสอบปรากฎว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลโพธิ์ทอง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรโพธิ์ทอง พร้อมด้วย ฝ่ายปกครอง จึงได้ดำเนินการติดตามตัววัยรุ่นทั้ง 5 คน ซึ่งอยู่ในคลิปมาทำการสอบสว

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ 5 คน ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 พวกตนซึ่งเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ ได้พากันตั้งวงดื่มสุราและเล่นสาดน้ำกันหน้าบ้านซึ่งอยู่ติดกับถนนใน หมู่บ้าน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 13.00 น. โดยขณะนั้นได้มีการ Live ผ่านสื่อออนไลน์ และเนื่องจากความมึนเมา จึงมีการท้าทายไม่เกรงกลัวกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจ ปัสสาวะของผู้ต้องหา พบว่ามีสารเสพติดในปัสสาวะ จำนวน 4 ราย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมว่า เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย โดยการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 5 เป็นความผิดตาม

- พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

- ประกาศจังหวัดร้อยเอ็ด เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ ระบาดโรคติดต่อ ไวรัสโคโรนา 2019

- พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558

- พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พลตำรวจโท ปิยะ กล่าวเสริมว่า "ฝากเตือนไปยังผู้ที่ยังฝ่าฝืน มีพฤติการณ์ท้าทาย กฎหมาย ต้องหยุดกระทำโดยทันที ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สังคมไทยต้องการความร่วมมือจาก ทุกภาคส่วน เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ขอให้พี่น้องประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกันการ แพร่เชื้อให้กับบุคคลใกล้ชิด ช่วยให้ประเทศไทยสามารถผ่านวิกฤติไวรัสโควิด 19 ไปให้ได้โดยเร็ว"

ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชน พบการกระทำความผิด หรือต้องการแจ้งเบาะแส สามารถติดต่อ ได้ที่ โทรศัพท์สายด่วน หมายเลข 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง