ตำรวจเผยเคอร์ฟิววันที่ 2 ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีเพียงส่วนน้อยที่จงใจฝ่าฝืน จับกุมดำเนินคดีรวม 308 ราย
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร. และโฆษกตร. แถลงภายหลังการประชุม ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสรุปภาพรวมการตั้งจุดตรวจหลังจากที่มีประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหสถานว่า ภาพรวมการปฏิบัติในคืนวันที่ 4 เม.ย.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง ทหาร สาธารณสุข และอาสาสมัครต่างๆ มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และชุดสายตรวจร่วม ทั่วประเทศ รวมจำนวน 836 จุด ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 1,893 คน
มีการตรวจค้นบุคคลทั้งหมด 19,312 คน ตรวจค้นยานพาหนะทั้งหมด 14,344 คัน ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่พบว่าเป็นผู้ที่มีเหตุผลและความจำเป็น คือ เป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ขนส่งสินค้าทางการเกษตร การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการแพทย์ ตามลำดับ
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า โดยปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอะลุ่มอล่วย เป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ 99.99%ให้ความร่วมมืออย่างดี มีประชาชนบางส่วนเท่านั้น ที่จงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น ดื่มสุราและขับขี่ยานพาหนะทั้งรถยนต์รถจักรยานยนต์ออกมาตามท้องถนนโดยไม่มีจุดหมาย หรือ รวมตัวจับกลุ่มตั้งวงสุราหรือสรวลเสเฮฮาในที่สาธารณะ ลักลอบเล่นการพนัน หรือ ออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอเช่น อ้างว่าไปเยี่ยมเพื่อน หรืออ้างว่าไม่รู้ว่ามีเคอร์ฟิว
"กลุ่มนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดี ทั้งหมด 308 ราย มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ"พล.ต.ท.ปิยะกล่าว
พล.ต.ท.ปิยะกล่าวอีกว่า ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ได้โปรดปฏิบัติตามข้อกำหนด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพื่อควบคุม ป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้โดยเร็วTAGS :