กรมคุมประพฤติส่งผู้ต้องกักติดโควิด-19 ให้กรมควบคุมโรคนำตัวไปรักษาแล้ว พร้อมสั่งกักตัว 4 เจ้าหน้าที่คุมประพฤติเฝ้าสังเกตุอาการ14 วัน หลังเข้าสอบปากคำผู้ต้องกักคดียาเสพติดในเรือนจำฯ

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 1 มีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติปฏิบัติงานภายในบ้านพักเพื่อเฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน หลังจากเข้าสอบปากคำผู้ต้องกักในคดียาเสพติดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ต้องกักขังกลุ่มหนึ่งอยู่ระหว่างรอตรวจพิสูจน์ในคดียาเสพติดและไม่ได้รับการประกันตัว ถูกส่งเข้าควบคุมที่เรือนจำคลองเปรม และทางเรือนจำฯได้ทำการตรวจคัดกรองพบว่า มีผู้ถูกกักขังรายหนึ่งมีอาการไข้สูง จึงแยกตัวออกมาและติดต่อกรมควบคุมโรคให้มารับตัวไปรักษา ชพร้อมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องกักรายนี้ ไม่ให้เข้าไปแพร่เชื้อในเรือนจำ

ทั้งนี้ ในส่วนผู้ต้องกักรายอื่นไม่ได้เดินทางมาในรถคันเดียวกับผู้ต้องกักที่มีอาการป่วย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็ได้ทำการคัดครองแล้วไม่พบว่ามีอาการไข้ แต่ให้แยกตัวออกมาเฝ้าระวัง 14 วัน เมื่อครบกำหนดแล้วหากไม่มีอาการใดๆ ก็จะเร่งดำเนินการให้ได้ประกันตัวออกไป ซึ่งในวันดังกล่าวพนักงานคุมประพฤติก็ได้เข้าไปสอบปากคำผู้ถูกกักขังรายอื่นที่ไม่มีอาการป่วย แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อและแพร่เชื้อ ทางสำนักงานคุมประพฤติฯ จึงมีคำสั่งให้ปฏิบัติงานที่บ้านพักและสังเกตอาการ 14 วัน

นายวิตถวัลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมประพฤติฯมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดชัดเจน โดยขอให้งดเยี่ยมญาติทั้งที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดลาดหลุมแก้ว และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดปัตตานี พร้อมให้เลื่อนกิจกรรมทั้งหมดออกไปก่อน แต่กิจกรรมใดที่ไม่สามารถเลื่อนได้ก็จัดในพื้นที่โล่ง มีระยะห่างกัน 2 เมตร และไม่อยู่ร่วมกันเกิน 10 คน ในส่วนสำนักงานคุมประพฤติจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าอาการ และมีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งแบ่งจำนวนเจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้านด้วย