ตำรวจ ปคบ.จับหนุ่มเปิดเฟซบุ๊กหลอกขายหน้ากากอนามัย อาศัยความตื่นตระหนกชาวบ้านฉวยโอกาสปั่นกระแสหลอกชาวบ้านให้โอนเงินราคาสูงท้ายสุดปิดเฟซบุ๊กหนี เจอข้อหาฉ้อโกงฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ.แถลงผลจับกุม นายวัชรพงษ์ โยกาศ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลอาญาข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , โดยนำข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบฯ , ร่วมกันประกอบธุรกิจดำเนินการใดๆ โดยจงใจที่จะทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือสูงเกินสมควร และร่วมกันฟอกเงิน" จับกุมได้หน้าคอนโดลุมพินีสวีท ถนนเพชรบุรี แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. จับกุมนายวัชรวิทย์ สุภาษิต ที่หลอกเหยื่อให้โอนเงินซื้อหน้ากากอนามัย แต่ไม่มีของส่งให้ก่อนปิดเพจเฟซบุ๊กหนีไป ได้เงินไปร่วมหลายแสนบาท ต่อมาตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลจนกระทั่งทราบว่า นายวัชรพงษ์ เป็นผู้เปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ "Mask-หน้ากากอนามัยราคาโรงงานปลีกส่ง" และอีกหลายเพจ เพื่อหลอกลวงขายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนทั่วไป แต่ไม่มีหน้ากากอนามัยขายจริง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาอาศัยความตื่นหนกของประชาชน และความต้องการหน้ากากอนามัย จึงได้ใช้อุบายหลอกขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด คือ 550 บาท ต่อกล่องละ 50 ชิ้น จำกัดคนละไม่เกิน 6 กล่อง เน้นหลอกลวงกลุ่มรายย่อย และได้เปิดเพจมาเพียง 2 วัน จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายประมาณ 200 คนที่หลงเชื่อ และได้โอนเงินเข้าบัญชีนายวัชรวิทย์
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า นายวัชรวิทย์มีหมายจับติดตัวอีก 4 หมายจับ ทั้งหมายจับศาลแขวงลำปางในข้อหาฉ้อโกง , หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ รวม 2 หมาย และหมายจับศาลแขวงธนบุรีข้อหายักยอก
อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชนก่อนจะซื้อ ขอให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือว่า ขายจริงหรือไม่เปิดเพจมานานแค่ไหนแล้ว ปคบ.ได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เข้าไปตรวจสอบข้อมูลตามที่ประชาชนแจ้งมาตลอดและหากใครพบขายหน้ากากอนามัยไม่ได้คุณภาพ สามารถแจ้งมาที่ ปคบ.เบอร์1135
สำหรับ ผลการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. ถึง 10 มี.ค.63 สามารถจับกุม ผู้กระทำผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาสูงเกินสมควรและไม่จำหน่ายสินค้าไม่แสดงราคารวม 71 คน ของกลางรวม 144,331 ชิ้น และจับกุมผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน 2 ราย คือ นายวัชรพงษ์ และนายวัชรวิทย์