อธิบดีพช.ปลื้มโครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดินไปได้สวย เดินหน้ารณรงค์ 100 วันลงนามความร่วมมือไปแล้ว 62 จังหวัด ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างดี

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(สถ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.2562 ถือเป็นวันเริ่มต้นการรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้ “โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จนถึงวันนี้ผ่านมา 100 วันของเดินหน้ารณรงค์ได้มีการลงนามความร่วมมือกับจังหวัดต่างๆไปแล้ว 62 จังหวัด

ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด องค์กรสตรี สถานศึกษา องค์กรภาคเอกชน สมาคม ชมรม ตลอดจนเครือข่ายระดับจังหวัด กลุ่มองค์กร และผู้นำกลุ่มสตรีต่างๆ รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวว่า โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ใกล้ลงนามครบ 76 จังหวัด ที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมถึงการร่วมมือร่วมใจสวมใส่ผ้าไทย สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้สืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี ที่พระราชทานพระราชดำรัสในงานวันสตรีไทย เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2562 มีใจความสำคัญว่าพระองค์จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระพันปีหลวง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นต่อปวงชนชาวไทย

ทั้งนี้ เป็นการอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทยศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ให้ชาวโลกได้ชื่นชม และยังสนับสนุนส่งเสริมการสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสตรีในท้องถิ่น และต่อยอดภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น ผ้าทอไทยทุกผืนเกิดจากการถักทอด้วยลมหายใจของผู้หญิง สามารถสร้างเงินหมุนเวียนในชุมชนได้จำนวนมาก

ด้านนางเฉลิมศรี คันธา ชาวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ประโยชน์ที่ได้จากการรณรงค์ ตามโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ทำให้ตลาดผ้าไทยในจ.เชียงใหม่ มีความคึกคักขึ้นมาก มีการนำวัตถุดิบพื้นบ้านมาใช้มากขึ้น ทำให้ยอดจำหน่ายผ้าในช่วงที่มีการรณรงค์ขายดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ได้เปิดจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ผลตอบรับดีมาก