THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

13 มกราคม 2563 : 14:38 น.

รอง ผบก.อก.ภ.9ยื่นฟ้อง ผบ.ตร.ย้ายไม่เป็นธรรม.ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย้ำไม่ได้ลองดีหรือท้าชนแต่ต้องการความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (รอง ผบก.อก.ภ.9) เดินทางมา ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 กรณีใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายโดยมีมูลเหตุจูงใจด้านอื่น

พ.ต.อ.ไพรัตน์ กล่าวถึงที่มาของการฟ้องคดีว่า ตนได้เคยทำบันทึกกล่าวหา ยื่นต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ขอความเป็นธรรมพิจารณาเป็นที่พึ่งกับตน กรณีถูกนายตำรวจ ระดับรอง ผบ.ตร.นายหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานจเรตำรวจออกสุ่มตรวจทรงผม เมื่อประมาณกลางปี 2561 แต่ปรากฎหลักฐานว่า จากจำนวนข้าราชการตำรวจทั่วประเทศประมาณ 2 แสนกว่านาย ตนเองเป็นเป้าหมาย 1

ทั้งนี้ เมื่อพบว่าตนตัดผมเรียบร้อยตามระเบียบก็ไม่ยอมจบ กลับไปนำภาพถ่ายเก่า มาเป็นเหตุสั่งประจำที่ศูนย์ปฎิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร) แต่เมื่อตนทำบันทึกกล่าวหา นายตำรวจยศ พล.ต.อ.คนดังกล่าว ไปถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ช่วงปลายเดือนส.ค.62 ก็มีคำสั่งให้ย้ายตน จากรอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ไปเป็น รอง ผบก.อก.ภ.9 ซึ่งการโยกย้ายมีมูลเหตุจูงใจด้วยสาเหตุดังกล่าว ไม่ได้กระทำไปเพื่อประโยชน์ต่อทางราชการ แต่กระทำไปเพื่อมุ่งหวังให้เกิดความเสียหายแก่ตนอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายที่ผ่านมา ตนไม่เคยมีปัญหา แต่เมื่อเป็นการโยกย้ายโดยไม่สุจริตตนจึงต้องขอมาใช้สิทธิร้องต่อศาล โดยนำพยานหลักฐานเป็นความเห็นที่มีการตั้งสอบความประพฤติของตนเอง และแผ่นอัดเสียงสนทนา ระหว่างตนกับนายตำรวจระดับสูง เพื่อให้ทราบถึงมูลเหตุจูงใจที่นำมาฟ้องร้องคดีนี้

"ตนเป็นตำรวจผ่านการโยกย้ายมาเป็น 10 ครั้งจะอยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การย้ายครั้งนี้มันมีมูลเหตุอื่นทั้งที่ผมก็ได้ทำหนังชี้แจงเหตุผลถึงคำสั่งยัายดังกล่าวที่ไม่มีความเหมาะสม ทั้งที่ผมก็อบรมหลักสูตรของสถาบันหนึ่ง ที่มีมติ ครม.อนุมัติ แต่กลับย้ายผมจากประเด็นมูลเหตุที่ไม่ใช่เพื่อทางราชการ ส่วนที่มีการสอบความประพฤติผมจากผู้บังคับบัญชาก็พบว่าความประพฤติผมไม่มีความเสียหาย มีผลงานชัดเจน"พ.ต.อ.ไพรัตน์ กล่าว

พ.ต.อ.ไพรัตน์ กล่าวว่า การที่มายื่นฟ้อง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ไม่ได้ต้องการท้าชน หรือลองดีแต่อย่างใด แต่เป็นการฟ้องตามหลักการเพราะ ผบ.ตร.เป็นผู้อนุมัติคำสั่งโยกย้ายตำรวจทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยทำเรื่องร้องขอความเป็นธรรมไปแล้ว แต่ ผบ.ตร.ก็ไม่ได้นำไปพิจารณา

สำหรับ ความขัดแย้ง กับรอง ผบ.ตร.คู่กรณีที่คอยตามกลั่นแกล้งตนมาตลอด ขอไม่เปิดเผย เพราะเป็นข้อมูลในสำนวนฟ้อง แต่เปิดเผยเพียงว่า รอง ผบ.ตร.คนดังกล่าวเป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยตำรวจ กับ ผบ.ตร. และนายตำรวจระดับสูง ผู้เคยกล่าวทำนองข่มขู่ว่าจะตามเอาผิดตนตลอด โดยมีคลิปเสียงเป็นพยานได้

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ