เมาแล้วขับทำผิดซ้ำซากปีใหม่นี้โดนส่งบำบัดอาการติดสุรากับสาธารณสุข ส่วนทำผิดครั้งแรกถูกส่งตัวบริการสังคมเหมือนเดิมและทัวร์ห้องดับจิต เตือนครั้งสุดท้ายดื่มฉลองต้องไม่ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิด #M2F
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงมาตรการป้องปราบผู้กระทำผิดฝ่าฝืนเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ในปีนี้แม้กรมคุมประพฤติจะไม่มีกำไลอีเล็คทรอนิคใช้ควบคุมผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับ แต่ยังคงมาตรการเข้ม โดยผู้ที่ถูกจับในคดีเมาแล้วขับที่มีประวัติกระทำความผิดซ้ำ จะถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดอาการติดสุรากับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ทันที
ทั้งนี้ จะต้องเข้ารับการบำบัดเต็มตามหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กำหนด ส่วนผู้ที่พบว่ากระทำความผิดเป็นครั้งแรก กรมคุมประพฤติจะเสนอศาลขอให้ส่งตัวเข้าทำงานบริการสังคมในโรงพยาบาล ซึ่งจัดเตรียมให้ผู้เมาแล้วขับไปดูแลผู้ป่วยในแผนกอุบัติเหตุ ช่วยเข็นรถอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วย และเข้าเยี่ยมชมห้องดับจิต เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสำนึกไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทหลังดื่มสุรา เพราะไม่เพียงทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อต้องบาดเจ็บและพิการจากผู้เมาแล้วขับ
นอกจากนี้ จะเพิ่มหลักสูตรอบรมจราจรให้เห็นถึงพิษภัยเมาแล้วขับเพิ่มเติมอีกด้วย จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่ าผู้ที่ถูกจับและคุมประพฤติในคดีเมาแล้วขับจะเกิดความเข็ดหลาบไม่กระทำความผิดซ้ำ การจับกุมในระยะหลังจะเป็นผู้ก่อคดีรายใหม่ ดังนั้น กรมจึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์กระตุ้นเตือนให้คนไทยละเลิกการดื่มสุราและขับขี่ยานพาหนะ
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สำหรับทิศทางการนำกำไลอีเล็คทรอนิคกลับมาใช้ยังมีความเป็นไปได้ที่กรมคุมประพฤติจะเปิดใช้กำไลอีเล็คทรอนิครอบใหม่ภายในปี 2563 เบื้องต้นจึงเร่งตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการใช้งานระบบกำไลอีเล็คทรอนิคเดิม ซึ่งกรณีดังกล่าวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้กำชับให้เรียนรู้จากการผิดพลาด ดังนั้น ในส่วนของการกำหนดสเป็คกำไลอีเล็คทรอนิคกรมคุมประพฤติ จะยึดตามแนวทางของศาลยุติธรรม โดยกำไลจะต้องใส่ที่ข้อเท้า
นอกจากนั้น จะเพิ่มคุณสมบัติให้ตัวเครื่องสามารถใช้ควบคุมจำกัดบริเวณผู้ถูกคุมประพฤติ เช่น กรณีเมาแล้วขับห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลในเวลา 22.00-04.00 น. หรือห้ามเข้าไปภายในสถานบันเทิง กรณีกลุ่มเด็กแว้นจะถูกกำหนดห้ามออกนอกบ้านยามวิกาล และห้ามขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือการนำกำไลไปใช้กับผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษปล่อยตัวก่อนกำหนด