THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

28 ธันวาคม 2562 : 12:26 น.

ศปถ.แถลงตัวเลขอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่วันแรกเสียชีวิต 43 ราย ผู้บาดเจ็บ 466 คน เมาแล้วขับยังเป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง สั่งบัวคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น #M2F

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน(ศปถ.)ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 27 ธ.ค.เกิดอุบัติเหตุ 464 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 43 ราย ผู้บาดเจ็บ 466 คน เมาแล้วขับสาเหตุอันดับหนึ่ง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข แถลงสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 เปิดเผยว่า ศปถ.ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 27 ธา.ค. ซึ่งเป็นวันที่แรกของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร”   เกิดอุบัติเหตุ 464 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 43 ราย ผู้บาดเจ็บ 466 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.39 ขับรถเร็ว ร้อยละ 24.78

ทั้งนี้ การอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.08 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.22  ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.60 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 30.39 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.27

อย่างไรก็ตาม ได้มีการจัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,026 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 63,961 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 731,933 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 158,453 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 42,912 ราย ไม่มีใบขับขี่ 39,584 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (20 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย ประจวบคีรีขันธ์  (จังหวัดละ 4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (22 คน)

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 ประชาชนส่วนใหญ่เดินทาง ถึงที่หมายแล้ว ขณะที่บางส่วนยังอยู่ระหว่างการเดินทาง ศปถ.ได้เน้นย้ำจังหวัด ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว มุ่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางลักผ่าน ทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน พร้อมดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด อีกทั้งเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท

นอกจากนั้น ได้กำชับให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เน้นการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และคุมเข้มการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์กรณีเกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บรุนแรงทุกราย ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขประสานให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ จัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย รวมถึงยานพาหนะให้พร้อมเข้าถึงจุดเกิดเหตุทันที หากประชาชนพบเห็นหรือประสบอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุ  ได้ทางสายด่วน 1669 ซึ่งมีทีมแพทย์ พยาบาล และเครื่องมือฉุกเฉินพร้อมให้บริการอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนนอำนวยความสะดวกแก่รถพยาบาลและรถฉุกเฉิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุ และนำส่งผู้ประสบเหตุได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ