ผบช.สตม. แถลงบุกทลายสปาเกย์หรูกลางกรุงฯแอบแฝงมั่วเซ็กส์ รวบ 11 ต่างด้าวทำงานเป็นหมอนวด
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รองผบช.สตม. พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และพ.ต.อ.ชัชวาลย์ ทิพย์พิชัย ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมกันแถลงข่าวบุกทลายสปาเกย์หรูครบวงจร
สืบเนื่องจากปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม. 1 เข้าจับกุมร้านนวดสปา แห่งหนึ่งในซอยสวนพลู 6 เปิดบริการเป็นร้านนวดสปา แต่แฝงให้บริการทางเพศ โดยสามารถจับกุมพนักงานนวดชายชาวต่างชาติได้หลายคน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงสืบสวนขยายผล จนทราบว่าพนักงานนวดชายจำนวนหนึ่ง ได้หลบมาทำงานในลักษณะเดียวกันที่ร้านแห่งหนึ่งย่านซอยอารีย์ 4 หลังที่ร้านเดิมภายในซอยสวนพลู 6 ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ตรวจสอบและหาข้อมูลของร้านดังกล่าวจากทางเว็บไซต์ของร้าน ก่อนพบว่าทางร้านได้มีโฆษณาเผยแพร่ภาพเกี่ยวกับการให้บริการอย่างครบวงจร มีข้อความเชิญชวนให้ลูกค้ามาลองสัมผัสการนวดสปา ที่จะพบ ความสุขและความผ่อนคลาย พร้อมมีการแจ้งรายละเอียดคอร์ส พร้อมห้องนวดสปาหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือก พร้อมทั้งโพสต์รูปพนักงานนวดผู้ชายมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ หล่อล่ำหน้าตาดีใส่เฉพาะกางเกงชั้นใน เน้นโชว์สรีระรูปร่าง ความวาบหวิว เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า ให้มาใช้บริการโดย เปิดส่วนใหญ่เป็นลูกค้าชาวต่างชาติชาย
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า พ.ต.อ.ภัคพงศ์ นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.1 วางแผนเข้านำกำลังเข้าตรวจสอบภายในร้านนวดสปาดังกล่าว พบว่าพนักงานชายเปลือยกายกำลังให้บริการลูกค้าและยังพบถุงยางอนามัยทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้อีกจำนวนหลายชิ้นอยู่บนที่นอนและถังขยะภายในห้องนวด ตรวจสอบพนักงานนวดชายทั้งหมด มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ มากกว่า 30 คน และตรวจเอกสารหลักฐานการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของพนักงานนวดชายชาวต่างชาติ พบว่าเป็นคนต่างชาติกระทำความผิด จำนวน 11 ราย แยกเป็น สัญชาติกัมพูชา 1 ราย เมียนมา 4 ราย ลาว 4 ราย และเวียดนาม 2 ราย จึงดำเนินคดีในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” และข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” ภายหลังการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ถูกจับทั้ง 11 ราย ให้ทราบแล้ว ได้นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายจ้างเจ้าของร้านดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป