.
โดย อาจารย์ชวินทร์ chavintapoti@gmail.com
มาชมพระเครื่องสกุลพระสมเด็จ ของวัดระฆังโฆสิตารามอีกองค์ครับ เหตุที่ได้ชื่อนำหน้าว่า สมเด็จนั้น เพราะผู้สร้างคือสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( ทัด เสนีวงศ์) ในสมัยที่ท่านดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพุทธุปบาทปิลันทน์ ท่านทรงเป็นศิษย์เอกของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อีกด้วย ในส่วนตัวนั้นถือว่าสมเด็จปิลันทน์ นี้สามารถใช้แทนสมเด็จวัดระฆัง ได้เลยทีเดียวครับ
พระสมเด็จปิลันทน์ องค์นี้ เนื้อหา มวลสารจัดจ้านเหมือนเนื้อสมเด็จวัดระฆังทีเดียว ดูง่ายแถมหายาก เพราะพระสมเด็จปิลันทน์ขาว พิมพ์ปรกโพธิ์ สร้างจำนวนน้อยมาก หาชมได้ยาก พระองค์นี้สวยสมบูรณ์แบบ มีคราบไขจากการลงกรุ เป็นคราบไขที่ทำให้ดูง่าย คราบไขที่จับอยู่แน่น มีมากน้อยแล้วแต่องค์พระ ไม่เท่ากันทุกองค์ และที่สำคัญคราบไขต้องมันวาวไม่แห้งกระด้าง
เริ่มส่องจากด้านหน้าจาก เนื้อหามวลสารจัดจริงๆครับ มวลสารที่ประกอบสำคัญของพระสมเด็จปิลันทน์ขาว ได้แก่ ปูนเปลือกหอยเป็นส่วนผสมหลักและผงวิเศษตามตำรับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) คือ ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงพุทธคุณ ผงมหาราชเป็นต้น
ซึ่งมวลสารเหล่านี้เหมือนมวลสารของสมเด็จวัดระฆัง โดยมีน้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสาน เมื่อนำมาปิดทอง และบรรจุลงในกรุ ความร้อนที่อยู่ในกรุ ทำให้องค์พระเกิดการบิดตัวจากปฏิกิริยาของอากาศและความร้อน และมีคราบไขที่หนึกนุ่มเคลือบองค์พระทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ลักษณะสีเหมือนไขวัว นั่นเอง
และยังเห็นคราบทองเก่าที่ปิดมาแต่เดิมมาด้วย ด้านหลังนั้นยังปรากฏคราบกรุและคราบไขเป็นธรรมชาติ ทำให้ดูง่ายทันทีครับสำหรับองค์นี้ ด้านพุทธคุณของสมเด็จปิลันทน์นั้น ครบเครื่องเรื่องเมตตามหานิยมและ แคล้วคลาด คงกระพัน
พระสมเด็จปิลันทน์ ได้ชื่อว่าเป็น พระสองสมเด็จฯ เพราะมีการสันนิษฐานว่า ช่วงเริ่มต้นของการสร้างพระเครื่องชุดนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ยังมีชีวิตอยู่, พระพุทธุปบาทปิลันทน์ ได้อาราธนาให้เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธาจารย์(โต) พรหมรังสี ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกและขอผงวิเศษของเจ้าประคุณสมเด็จฯ มาเป็นมวลสารหลักด้วย คนรุ่นเก่าๆ ที่ทราบประวัติการสร้างจึงนิยมเรียกว่า พระสองสมเด็จ นั่นเอง
พระเครื่องสมเด็จปิลันทน์เป็นพระที่มีพิมพ์จำนวนมาก แต่จำแนกตามพิมพ์ที่สากลนิยมยอมรับกันได้ดังนี้
1.พระพิมพ์ซุ้มประตู 2.พระพิมพ์ครอบแก้วใหญ่ 3.พระพิมพ์ครอบแก้วเล็ก 4.พระพิมพ์เปลวเพลิงใหญ่ 5.พระพิมพ์เปลวเพลิงกลาง 6.พระพิมพ์เปลวเพลิงเล็ก 7.พระพิมพ์สี่เหลี่ยมปรกโพธิ์ใหญ่ 8.พระพิมพ์สี่เหลี่ยมปรกโพธิ์เล็ก , 9. พระพิมพ์สี่เหลี่ยมปรกโพธิ์เล็ก ครอบแก้ว10. พระพิมพ์ประทานพร หรือปฐมเทศนา 11.พระพิมพ์โมคคัลลาน์ – สารีบุตร ฯลฯ
สมเด็จปิลันทน์ ได้มีการพบครั้งแรกจากเจดีย์ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพระอุโบสถวัดระฆังฯ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2471โดยคนร้ายได้ลักลอบขุดเจาะพระเจดีย์อย่างต่อเนื่อง และต่อมาในปีพ.ศ.2480 เจดีย์ได้ถูกคนร้ายลักลอบขุดอีกครั้ง ทางวัดจึงได้เปิดกรุอย่างเป็นทางการ พระที่ได้จากการเปิดกรุนั้น เกือบทั้งหมดเป็นพระเนื้อผงผสมใบลาน มีเนื้อสีเทาอมดำ เนื้อขาวมีน้อยมาก และในช่วงต่อมาได้เกิดสงครามอินโดจีนขึ้น ทางวัดจึงได้นำพระสมเด็จปิลันทน์บางส่วนมอบให้กระทรวงกลาโหมเพื่อแจกจ่ายให้กับทหารที่ออกรบในศึกสงครามอินโดจีนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
สมเด็จพระพุฒาจารย์( ทัด เสนีวงศ์) มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าทัด เสนีย์วงศ์ เป็นพระโอรสในกรมหลวงเสนีย์บริรักษ์ ( พระองค์เจ้าแดง )ในกรมพระราชวังบวรสถานภิมุข ( วังหลัง ) ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2364 ตรงกับวันพุธแรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีมะเมีย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และ มรณภาพ เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 7 ปีชวด ตรงกับวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2443