ศาลฎีกาออกหมายจับ “ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์” ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คดีร่วมกับ
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ศาลจังหวัดพัทยานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.3537/2552 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.8488/2552 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดพัทยา โจทก์ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 18 คน โดยวันนี้ผู้รับมอบอำนาจและทนาย จำเลยที่ 3 คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ รัตน์ นายสำเริง ประจำเรือ จำเลยที่ 6 และ นายวรชัย เหมะ จำเลยที่ 13 มาศาล
ศาลฎีกาพิเคราะห์คำร้องจำเลย ดังนี้ ประเด็นที่ 1 คือ จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 6 และจำเลยที่ 13 ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การเดิมจากปฎิเสธเป็นรับสารภาพ ศาลฎีกามีคำสั่งว่า การแก้ไขหรือเพิ่มเติมคำให้การต้องกระทำก่อนศาลพิพากษา การที่จำเลยมายื่นในชั้นฎีกาเป็นการต้องห้าม ยกคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา163 วรรค2
ประเด็นที่ 2 คือ วันนี้ ผู้รับมอบอำนาจจำเลยที่ 3 ทนายจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 6 และจำเลยที่ 13 ยื่นคำร้องขอเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกา จำเลยที่ 3 ให้เหตุผลว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ระหว่างการประชุมพรรค ศาลฎีกามีคำสั่งว่า แม้จำเลยที่ 3 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่คดีนี้เสร็จการพิจารณาเสร็จแล้วไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 125 ประกอบกับการขอเลื่อนคดีมีลักษณะเป็นการประวิงคดีจึงไม่อนุญาตให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาของจำเลยที่ 6 และจำเลยที่ 13 พิพากษาจำเลยที่ 6 และจำเลยที่ 13 โดยศาลพิพากษา ให้จำคุกจำเลยคนละ 4 ปี ปรับคนละ 200 บาท
ส่วนจำเลยที่ 3 คือ พ.ต.ท.ไวพจน์ ให้เลื่อนฟังคำพิพากษาไปอ่านวันที่ 15 มกราคม 2563 เวลา 09.00 น. และให้ออกหมายจับจำเลยที่ 3 และปรับนายประกันจำเลยที่ 3 เต็มตามสัญญาประกัน