มมร สนองพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เปิดสอนหลักสูตรศาสนศาสตรบัณฑิต เปลี่ยนผู้ต้องขังเป็นบัณฑิต นำร่องเรือนจำกลางบางขวางจบหลักสูตรแล้ว 16 รายมมร ผลิตบัณฑิตสนองพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ
เมื่อวันที่ 17 พ.ย.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จประทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากมหามกุฏราชวิทยาลัย ประจำปี 2562 ที่หอประชุมสุชีพ ปุญญานุภาพ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งในคณะผู้สำเร็จการศึกษามีอดีตผู้ต้องขังที่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรศาสนศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตามโครงการวิทยบริการสอนพระพุทธศาสนาในเรือนจำด้วย ซึ่งนับว่า เป็นปีแรกที่สามารถผลิตบัณฑิตตามโครงการดังกล่าวได้สำเร็จ
สำหรับ ในปี 2562 เรือนจำกลางบางขวางดำเนินการเป็นแห่งแรก ได้มีผู้จบการศึกษาหลักสูตรศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศาสตร์ จำนวน 16 ราย เข้ารับประทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช 7 ราย ส่วนที่เหลืออีก 9 รายรอรับประทานปริญญาบัตรในเรือนจำต่อไป
อย่างไรก็ตาม โครงการวิทยบริการสอนพระพุทธศาสนาในเรือนจำ เป็นโครงการตามแนวพระราชกระแสรับสั่งใน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้กรมราชทัณฑ์ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ส่งเสริมการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาให้แก่ผู้ต้องขัง เพื่อให้บุคคลดังกล่าวเข้าใจและน้อมนำหลักธรรมคำสอนไปขัดเกลาจิตใจให้ไพบูลย์ยิ่งขึ้น
พระราชปฏิภาณโกศล อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยฯ และกรมราชทัณฑ์ ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้านพระพุทธศาสนา และการขยายโอกาสให้แก่ผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะผู้ต้องขังให้ได้ศึกษาต่อ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ นำหลักธรรมะไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และกล่อมเกลาจิตใจผู้ต้องขังเพื่อเป็นการคืนคนดีสู่สังคมต่อไป
พระราชปฏิภาณโกศล กล่าวว่า บัณฑิตรุ่นแรกจะเป็นเสมือนผู้เริ่มจุดประกายสังคมให้ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นว่า กลุ่มนักโทษสามารถกลับตัวเป็นคนดีและอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ รวมถึงยังจะเป็นแบบอย่างให้กับผู้ต้องขังรายอื่นได้มีความหวังและกำลังใจจะพัฒนาตนเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้พร้อมที่จะกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติสุขอีกครั้งหลังพ้นโทษ
ด้าน พระสุทธิสารเมธี คณบดีคณะศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีจำนวนผู้ต้องขังสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และ อันดับ 1 ในอาเซียน กว่าร้อยละ 79 ต้องโทษมาจากคดียาเสพติด ทั้งนี้สาเหตุเริ่มต้นมาจากการขาดโอกาสทางการศึกษาเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ยังพบว่าสภาพความเป็นอยู่ในคุกมีความแออัดสูงมาก ปัจจุบันมีนักโทษประมาณ 367,695 ราย แต่พื้นที่จริงรองรับได้ราว 120,000 รายเท่านั้น ดังนั้นการลงโทษเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่ทางออกของปัญหา การให้ความรู้และเตรียมความพร้อมให้ผู้ต้องขังสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้จึงเป็นแนวทางแก้ไขที่ให้ผลดีกว่า ทั้งกับตัวผู้ต้องขังเองและกับสังคม
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของโครงการเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรศาสนศาสตรบัณฑิต (ศน.บ.) สาขาวิชาพุทธศาสตร์ คณะศาสนาและปรัชญา นำร่องหลักสูตรในปี 2557 ที่เรือนจำกลางบางขวางเป็นแห่งแรก ในปีนี้มีผู้ที่พ้นโทษแล้วจะได้เข้ารับประทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระสังฆราช ส่วนผู้ที่ยังไม่พ้นโทษยังรอรับประทานปริญญาบัตรในเรือนจำต่อไป
ปัจจุบันมีเรือนจำและทัณฑสถานเข้าร่วมโครงการแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ เรือนจำกลางบางขวาง เรือนจำอ.แม่สอด ทัณฑสถานหญิงกลาง และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นับได้ว่ามหาวิทยาลัยฯ เป็นสถาบันการศึกษาพระพุทธศาสนาที่ ชูหลักพุทธศาสตร์ คืนคนดีสู่สังคม” อย่างแท้จริง