ผบ.ทร.สั่ง ทร.แจงปมสร้างบ้านรับรอง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 112 ล้าน ยันใช้รับรองแขกวีไอพีไม่แพง
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณของกองทัพเรือในการสร้างบ้านพักรับรอง ผบ.ทร.จำนวน 112 ล้านบาทใช้งบประมาณจำนวนมากว่า พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. มอบหมายให้ พล.ร.ต.อภินันท์ เพ็งศรีทอง เจ้ากรมช่างโยธาทหารเรือ พล.ร.ต.พาสุกรี วิลัยรักษ์ เลขานุการกองทัพเรือ และน.อ.เมธีชัย แก้วนิล ผอ.บริหารกองบริหารงบประมาณ สำนักงานปลัดบัญชีทหารเรือ ร่วมแถลงชี้แจงกับสื่อมวลชนที่กรมช่างโยธาทหารเรือ
พล.ร.ต.อภินันท์ กล่าวว่า บ้านพักรับรอง ผบ.ทร.เดิมสร้างกว่า 30 ปี และเมื่อปี 54 เกิดน้ำท่วมขัง ทำให้โครงสร้างของบ้านเกิดชำรุดเสียหาย เนื่องจากพื้นที่ต่างระดับกับแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะคอนกรีตเสริมเหล็กผุพัง ทำให้ฤดูน้ำหลาก มีน้ำท่วมขัง เมื่อกรมช่างโยธาทหารเรือ เข้าไปตรวจสอบพบว่า มีสภาพชำรุดไม่คุ้มค่าต่อการซ่อมแซม จึงได้ขออนุมัติสร้างขึ้นมาใหม่ และมีการเพิ่มวัตถุประสงค์ให้เป็นอาคารรับรองแขกระดับวีไอพีของกองทัพเรือ โดยเฉพาะห้องจัดเลี้ยงมีการปรับปรุงขยายให้สง่างาม
สำหรับ กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เพราะเหตุใดการก่อสร้างจึงเกิดขึ้นเร็วนั้น เนื่องจากในเดือน พ.ย. ใช้เป็นพื้นที่รองรับการประชุมอาเซียนซัมมิท ในวันที่ 11 พ.ย. รวมถึงการประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน พร้อมคู่เจรจา 18 ประเทศ ในวันที่ 17 พ.ย. จึงมีการเร่งรัดการก่อสร้างเพื่อให้แล้วเสร็จสมเกียรติในวันที่ 1 พ.ย.นี้
“ผบ.ทร.ได้ให้นโยบายว่า อาคารหลังนี้ไม่ใช่เพียงแค่บ้านพักรับรอง ผบ.ทร.เพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมา พล.ร.อ.ลือชัย รับตำแหน่งก็ไม่เคยเข้าพักที่บ้านหลังดังกล่าว เพราะมีบ้านของตนเอง จากวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือ สร้างไว้รับรองแขกวีไอพีของกองทัพเรือ แต่เมื่อรื้อถอนอาคารเดิมจึงจำเป็นต้องใช้ชื่อบ้านพักรับรอง ผบ.ทร.” พล.ร.ต.อภินันท์ กล่าว
พล.ร.ต.อภินันท์ กล่าวว่า สำหรับในส่วนที่เป็นตึกสูงสามชั้น ที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า เป็นโรงแรมหรือไม่นั้น ยืนยันว่า เป็นอาคารพักของผู้ติดตาม เพราะต้องเตรียมไว้รองรับประมาณ 20-30 คน เปรียบเป็นโรงแรมขนาดย่อม ถือเป็นการใช้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับงบประมาณในการก่อสร้าง จำนวน 112 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. ตัวอาคารบ้านพักรับรอง จำนวน 65 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมถึงการรื้อถอนบ้านพักหลังเดิม การก่อสร้างตัวอาคารใหม่ งานสถาปัตยกรรม งานเดินท่อ ระบบไฟฟ้า เครื่องไฟฟ้าฉุกเฉิน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆครบถ้วน 2. ค่าตกแต่งภายในจำนวน 32.5 ล้านบาทครอบคุมพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร รวมถึงอาคารผู้ติดตามงานจัดเลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่เกี่ยวกับพื้น ผนัง ฝ้าและเพดาน ห้องสุขาและอื่นๆ
3. งานภูมิสถาปัตยกรรมจำนวน 15 ล้านบาท ได้แก่ การปรับภูมิทัศน์ภายนอกทั้งหมด เช่น การถมดิน งานถนนกำแพงกันน้ำท่วม การสร้างศาลาริมน้ำเพื่อรองรับงานจัดเลี้ยงบริเวณภายนอกที่เชื่อมต่อจากตัวอาคารภายใน และป้อมรักษาการณ์ ส่วนเหตุผลที่ต้องแยกเป็นสามส่วนนั้น เนื่องจากมีการเร่งรัดงานก่อสร้างให้เร็วขึ้นเพื่อให้ทัน วันที่ 11 พ.ย. และวันที่ 17 พ.ย. เพราะฉะนั้นวงเงินค่าก่อสร้างทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานราคาที่สำนักงบประมาณกำหนด และการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานที่ถูกต้อง ตนยืนยันว่า ไม่แพง และสามารถชี้แจงรายละเอียดได้
“ผมเชื่อว่าศักยภาพพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยา เราพัฒนาไปถึงจุดนี้ได้จะเป็นหน้าตาของประเทศโดยเฉพาะการรองรับการจัดประชุมอาเซียนซัมมิท เมื่อเราเปิดใช้อาคารหลังนี้ ก็จะสอดคล้องกับอาคารหอประชุมกองทัพเรือ อยากให้นึกภาพหากอาคารรับรองมีน้ำท่วมขัง เมื่อถึงวันจัดงานจะรู้สึกอย่างไร” พล.ร.ต.อภินันท์ กล่าว
เมื่อถามถึงบริษัทที่เข้าร่วมประมูลก่อสร้างอาคารครั้งนี้ พล.ร.ต.อภินันท์ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างปี 60 ซึ่งบริษัทอิตาเลียนไทย เป็นบริษัทชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือ และมีผลงานโดยเคยก่อสร้างอาคารให้กับกองทัพเรือมาแล้ว ในส่วนของ บริษัทรัชดา แฟบริค เฮ้าท์ที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งก็มีผลงานกับกองทัพเรือ เช่น งานเอเปค 2003 ซึ่งไม่มีประวัติการทำงานล่าช้า
ด้าน น.อ.พาสุกรี กล่าวว่า ในแต่ละเดือนกองทัพเรือมีแขกต่างประเทศมาเยี่ยมเยือน 2-3 ราย ซึ่งทุกครั้งจะต้องจัดที่พักที่โรงแรม ทำให้มีค่าใช้จ่าย ขณะที่กองทัพเรือซึ่งมีความพร้อมทั้งเรื่องดนตรีและพลาธิการ ขาดเพียงแต่สถานที่เมื่ออาคารหลังนี้แล้วเสร็จก็จะตอบโจทย์ทั้งหมด ทำให้มีพื้นที่รองรับแขกบ้านแขกเมืองได้ตลอด รวมถึงในอนาคตข้างหน้าหากรัฐบาลหรือเหล่าอื่นต้องการใช้สถานที่ก็สามารถดำเนินการได้
ขณะที่ น.อ.เมธีชัย กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณที่ได้รับเป็นการจัดสรรตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี 2562 ของกองทัพเรือ ที่เกี่ยวข้องกับค่าซ่อมบำรุงปรับปรุงสิ่งก่อสร้างและระบบสาธารณูปโภค ที่สามารถใช้จ่ายได้ในกรณีเร่งด่วน ซึ่งอาคารนี้เมื่อดำเนินการไปแล้วไม่ได้กระทบต่อการปฏิบัติงาน และภารกิจอื่นของกองทัพเรือที่ได้รับการจัดสรรตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี