อธิบดีพช.คนใหม่ปลุกคนกรมการพัฒนาชุมชนร่วม “Change for Good” ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทุกมิติ เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ทำให้ชุมชนมีความสุข
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) คนใหม่เป็นประธานจัดงานวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน ประจำปี 2562 โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ นางรชตภร โตดิลกเวชช์ อดีตประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหาร ข้าราชการหน่วยงานภาคีเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ณ กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี
นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ต.ค.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน โดยตลอดระยะเวลา 57 ปีที่ผ่านมา กรมการพัฒนาชุมชนได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการบริหารงานและปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ ด้วยการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ขยายตัว เสริมสร้างกองทุนชุมชนให้มีธรรมภิบาล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งทุนของประชาชน ตลอดจนการสร้างและพัฒนาศักยภาพของผู้นำชุมชน ให้สามารถเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและให้ประชาชนมีความสุข
ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน และกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดเป็นคำขวัญที่สำคัญ และเข้าใจง่ายๆ คือ “บําบัดทุกข์ บํารุงสุข” จากการทำงานหนักที่ผ่านมาตลอด 57 ปี กรมการพัฒนาชุมชน ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยมอบหมายภารกิจสำคัญอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม อาทิ การพัฒนาคุณภาพชีวิตและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งได้ศึกษาโดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์ทำให้มีความง่าย ท้าทาย และเป็นไปได้ในการปฏิบัติ เพื่อให้บุคลากรและผู้เกี่ยวข้องในงานพัฒนาชุมชน ใช้เป็นกรอบทิศทางในการปฏิบัติงานและตั้งเป้าหมาย โดยการกำหนดวิสัยทัศน์ของกรมการพัฒนาชุมชนว่า เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพึ่งตนเองได้ในปี 2565
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า โดยสามารถกำหนดขั้นตอนและรูปแบบ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสมคือ 1. เน้นเป้าหมายบุคคลและครัวเรือน 2.ส่งเสริมประชาชนให้สามารถรวมกลุ่มในรูปแบบต่างๆ ของชุมชน เช่น สมาชิกโอทอป หมู่บ้านโอทอปนวัตวิถี วิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี และ3.มุ่งเน้นร่วมมือกันในรูปแบบเครือข่าย ในรูปแบบของวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งเป็นงานที่กรมการพัฒนาชุมชนได้ริเริ่มไว้ในรูปแบบบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด ในทุกจังหวัดมาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ทั้งนี้ เพื่อทำให้เกิดพลังเศรษฐกิจฐานรากที่เกิดการกระตุ้นให้มากขึ้น
"ในวาระแรกที่ได้รับโปรดเกล้าฯ มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คนที่ 29 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเป็นบุญอย่างยิ่งที่ได้ทำงานกับภาคีเครือข่าย ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ประเทศชาติ เป็นสิ่งดี ๆ เหมือนชื่อกรมการพัฒนาชุมชน ผมมั่นใจว่าก้าวต่อไปของกรมการพัฒนาชุมชน ทุกคนพร้อมเป็นหนึ่งในทีมที่ทำเพื่อเป้าหมาย “Change for Good” ร่วมกันเพื่อบ้านเมืองของเรา" อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว
