รมช.สาธารณสุขสั่งโรงพยาบาลในสังกัดสธ.เช็คยอดผู้ป่วยโรคปอดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หลังนานาประเทศขึ้นบัญชีดำพิษร้ายต้นเหตุก่อมะเร็ง
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) คนที่ 1 ในฐานะประธานที่ประชุมกรรมการกองทุน สสส. ครั้งที่7/2562 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั่วประเทศ ติดตาม รวบรวม และรายงานจำนวน และอาการของผู้ป่วยโรคปอด ที่มีโอกาสสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ทั้งนี้ เนื่องจากศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกาพบการเจ็บป่วยด้วยโรคปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 450 ราย ในระยะเวลาเพียง 2 เดือนและเสียชีวิตแล้วถึง 7 ราย ดังนั้นเพื่อให้เกิดการตื่นตัวในการเฝ้าระวังและป้องกัน จึงได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด สธ. ซักประวัติการการสูบบุหรี่ย้อนหลัง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมักจะพบว่าผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีอาการป่วยที่รุนแรงขึ้นในเวลาอันสั้น ต่างจากโรคถุงลมโป่งพอง ที่เกิดจากบุหรี่ธรรมดาและใช้เวลาก่อโรคนานกว่า ซึ่งขณะนี้ในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง รัฐอัลเบอร์ต้า (แคนาดา) ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข รายงานผลผู้ป่วยที่สัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นการเฉพาะ เนื่องจากมีหลักฐานที่พบว่า คนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดการเปลี่ยนเปลงรหัสพันธุกรรมของเซลล์เนื้อเยื่อที่นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งได้ “ในสหรัฐอเมริกาพบนักเรียน ม.ปลาย สูบบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นถึง 18 เท่า ในเวลาเพียง 8 ปี ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข และ สสส.รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องวางมาตรการที่เข้มข้นในการในการป้องกันดูแลกลุ่มเด็ก เยาวชนเหล่านี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นกลุ่มที่มีความอยากรู้ อยากลองและอาจกลายมาเป็นนักสูบหน้าใหม่ได้” รมช.สาธารณสุขกล่าว