บอร์ดรฟท.เตรียมเคาะผู้ชนะประมูล 23 ส.ค. งานอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง จีน-แคนนาดา-เกาหลีร่วมแบ่งเค้ก คาดลงนามสัญญาภายใน 2 เดือน

นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการประมูลงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางราคากลางรวม 11,492 ล้านบาท เริ่มจาก โครงการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร วงเงิน 6,250 ล้านบาท โดยมีกิจการร่วมค้า CRSC Research & Design Institute Group Co.,Ltd และ CRSC International Company Limited เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 6,217 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 0.52% ขณะที่คู่แข่งกิจการร่วมค้า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ LSIS ประเทศเกาหลีใต้ เสนอราคาที่ 6,249 ล้านบาท

ด้านโครงการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 2,782 ล้านบาท นั้น มีกิจการร่วมค้า BT-UN ประกอบด้วย Bombardier จากประเทศแคนนาดา และบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 2,772 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 0.36% ส่วนคู่แข่งกิจการร่วมค้า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ LSIS ยื่นข้อเสนอที่ 2,780 ล้านบาท

สำหรับโครงการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ วงเงิน 2,460 ล้านบาท นั้น มีกิจการร่วมค้า บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD และ LSIS เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 2,447 ล้านบาท ต่ำกว่ารากลาง 0.51% ส่วนคู่แข่งกิจการร่วมค้า CASCO Signal Ltd. และ CRSC Internaional Company Limited ยื่นข้อเสนอด้านราคาที่ 2,495 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามจากการเปิดซองคุณสมบัติก่อนหน้านี้มีเอกชนสอบตกคุณสมบัติ ได้แก่ 1.กิจการร่วมค้า Siemens ตกคุณสมบัติสัญญางานระบบรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร 2.กิจการร่วมค้า Siemens ตกคุณสมบัติสัญญางานระบบรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 3.กิจการร่วมค้า CRSC Research & Design Institute Group Co.,Ltd และ CRSC International Company Limited ตกคุณสมบัติสัญญางานระบบรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 4.กิจการร่วมค้า BHBR ที่ประกอบด้วย Beijing Hollysys และบริษัท สยามสแกนดิเนเวียน คอนสตรัคชั่น แอนด์ บิสซิเนส จำกัด ตกคุณสมบัติสัญญางานระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ

นายสุจิตต์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะเรียกเอกชนมาเจรจาต่อรองเรื่องราคาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ก่อนจะเสนอรายชื่อผู้ชนะการประมูลให้คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเห็นชอบในวันที่ 23 ส.ค. และส่งต่อให้คณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท. เห็นชอบต่อไป จากนั้นจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกบนเว็บไซต์ เพื่อเปิดให้มีการอุทธรณ์หรือโต้แย้งผลการประมูลเป็นเวลา 5 วันทำการ ดังนั้นจึงตั้งเป้าหมายว่าจะลงนามสัญญากับผู้ชนะการประมูลในเดือนต.ค.นี้ หรือภายใน 2 เดือนนับจากนี้