อภัยภูเบศรเผยผลการรักษาผู้ป่วยด้วยกัญชา ทั้ง ลมชัก พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ พบส่วนใหญ่อาการดีขึ้นตามลำดับ พร้อมผลิตน้ำมันจากของกลาง สิ้นเดือน ส.ค.กระจายให้สถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต
ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ เภสัชกรชำนาญการ ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้รายงานผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. ถึง 15 ก.ค. 2562 ว่า ผู้ป่วยพาร์กินสัน 7 คน มีอาการดีขึ้น 6 ราย คงเดิม 1 ราย แพทย์วางแผนจะปรับขนาดยาในครั้งหน้า โดยเริ่มเห็นผลหลังใช้ยาตั้งแต่ 3-14 วัน ผู้ป่วยลมชัก 1 รายที่ได้รับยาไป หลังใช้ยากัญชาได้ 14 วัน ไม่มีอาการชัก เริ่มรับรู้ได้มากขึ้น ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ 1 ราย อารมณ์หงุดหงิดวุ่นวาย ลดลงอย่างชัดเจน ทั้ง 12 ราย ไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง
สำหรับ คลินิกกัญชาทางการแพทย์อภัยภูเบศรนั้นจัดตั้งขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยากัญชาที่ปลอดภัยในการรักษาโรคอย่างต่อเนื่องและถูกกฎหมาย ในช่องทางการรักษากรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย และเพื่อติดตามประสิทธิผลและความปลอดภัยของยากัญชา โดยเปิดให้บริการทุกวันจันทร์สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการใช้กัญชาทางการแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการครั้งแรกวันจันทร์ที่ 24 มิ.ย. 2562 และจะเปิดบริการครั้งที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 22 ก.ค.
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น มียาล็อตแรกคือ 10% CBD oil ซึ่งพิจารณาสั่งจ่ายให้กับผู้ป่วย 3 กลุ่ม คือ 1. โรคและกลุ่มอาการพาร์กินสันที่ไม่ตอบสนองต่อยาแผนปัจจุบัน 2. โรคลมชักที่ดื้อต่อยาแผนปัจจุบัน 3. โรคอื่นๆที่มีหลักฐานการใช้ว่าได้ประโยชน์และอยู่ในการพิจารณาของแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยแพทย์จะเริ่มต้นขนาดยาต่ำๆ คือครั้งละ 5 มิลลิกรัม (0.05 ซีซี เทียบเท่า 1 หยด) หรือ 10 มิลลิกรัม (0.1 ซีซี เทียบเท่า 2 หยด) วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน
สำหรับ การจัดเก็บยาและเบิกจ่ายเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) มีแนวทางการคัดกรองและการติดตามผลทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด โดยมีการเซ็นหนังสือรับทราบและยินยอมรับการรักษาด้วยกัญชา ประเมินคุณภาพชีวิตก่อนและหลังใช้ยา ติดตามอาการโดยรวม หากเป็นพาร์กินสันจะมีแบบประเมิน UPDRS-8 โรคลมชักจะประเมินจากความถี่ในการชัก
ด้านความปลอดภัยจะมีการโทรติดตามผลหลังใช้ยา 1,3,7,14,21 วัน มีการจัดทำคู่มือ สำหรับผู้ป่วยที่ใช้ยากัญชาทางการแพทย์ และเอกสารกำกับยา มอบให้ผู้ป่วยเมื่อจ่ายยากัญชา และนัดผู้ป่วยมาติดตามที่คลินิกทุก 1 เดือน เพื่อปรับขนาดยาตามการพิจารณาของแพทย์ นอกจากนี้ยังมีการเจาะค่าเลือดพื้นฐาน ค่าตับและค่าไต ก่อนเริ่มสั่งใช้ยา และหลังเริ่มยา 1 เดือน จากนั้นทุก 3 เดือน หรือหากเกิดความผิดปกติใดๆ อาจนัดหมายตามความเหมาะสม หากพบอาการไม่พึงประสงค์ และผลข้างเคียงจากยา เภสัชกรจะทำการรายงานเข้าไปที่ระบบออนไลน์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และบันทึกในเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์
นอกจาก CBD oil ที่แจกให้กับผู้ป่วยอยู่ในขณะนี้ ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรกำลังเร่งสกัดกัญชาของกลางที่ได้มาจากสำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน 643.9 กิโลกรัม ที่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยของยาฆ่าแมลง แต่ยังมีปริมาณแคดเมียมตกค้างเกินมาตรฐาน โดยใช้วิธี Supercritical fluid extraction และใช้ตัวทำละลายเป็นน้ำมันมะกอก ตามที่มีงานวิจัยรองรับในต่างประเทศ ประกอบกับการขออนุญาตผลิตยา จำเป็นต้องใช้สารที่มีมาตรฐานตามตำรายา เพื่อเพื่อให้ได้คุณภาพยาที่สม่ำเสมอ จึงได้เลือกมาเป็นส่วนผสมในสูตรเฉพาะของทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร โดยคาดว่าจะสามารถส่งยาล็อตแรกให้แก่สถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้