THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

10 กรกฎาคม 2562 : 14:27 น.

ตำรวจรวบแล้ว 8 รายจาก 13 รายที่แชร์ข่าวใส่ร้ายรองผบ.ตร.ส่งลูกน้องกระทืบ จ่านิว เตรียมจับต้นตอปล่อยข่าวลวง

เมื่อวันที่10ก.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กองกำกับการ 3 บก.ปอท. พ.ต.อ.กฤษณะพัฒนะเจริญรองโฆษกตร. ร่วมแถลงการดำเนินคดีกับผู้ที่ส่งต่อข้อความทางโซเชียลมิเดียอ้างว่า พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผบ.ตร.อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมืองทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากมีการแชร์ข้อความอันเป็นเท็จบก.ปอท. จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่ามีผู้กระทำความผิดจำนวน 13 คนพฤติการณ์คือแชร์ข้อความเท่านั้นซึ่งเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แต่มาพบพนักงานสอบสวน 8 คน ส่วนอีก 5 จะเดินทางเข้าทราบข้อกล่าวหาภายใน 1 สัปดาห์นี้

ทั้งนี้ จากการสอบปกคำพบว่าทั้ง 13 คน 13 บัญชีในจำนวน 3-4 บัญชีเป็นบัญชีอวตาร หรือบัญชีปลอมไม่มีการแสดงตัวตน แต่เจ้าหน้าที่สามารถสืบทราบว่า เป็นบัญชีของใครซึ่งทั้ง 8 คนให้การภาคเสธแต่ยอมรับว่าแชร์ข่าวดังกล่าวจริง ไม่ทราบว่าข่าวนั้นเป็นข่าวปลอมหรือมีที่มาจากไหนผู้ต้องหาทั้งหมดไม่รู้จักกัน มีภูมิลำเนาทั้งกทม.ปริมณฑล และต่างจังหวัด แต่มีความสนใจในเรื่องการเมืองในลักษณะเดียวกันจึงได้มีการแชร์ข่าวส่งต่อไปยังเพื่อนๆและคนรู้จักไม่ใช่ขบวนการ นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติไม่พบว่าทั้ง 13 คนเคยมีประวัติการแชร์ข่าวปลอม หรือมีการร่วมขบวนการแต่อย่างใด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแล้วว่า ใครเป็นต้นตอปล่อยข่าว อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีเบื้องต้นพบว่ามี1คน

สำหรับ การแชร์ข่าวปลอมในครั้งนี้นั้นมีเพียง 2 ประเด็นคือแชร์เพียงสร้างผลประโยชน์สร้างยอดไลค์ยอดแชร์ให้กับตัวเอง และแชร์เพื่อสร้างความเกลียดชังและความสับสน โดยจะใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือข้าราชการมากล่าวอ้าง กรณีดังกล่าวเป็นการแชร์เพื่อให้เกิดความสับสน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงสามารถดำเนินคดีกับคนที่แชร์ข่าวใส่ร้ายรองผบ.ตร.ได้รวดเร็ว แต่คดีจ่านิวยังล่าช้าจับตัวคนร้ายยังไม่ได้ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขณะนี้คดีของจ่านิวมีความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานสอบปากคำไปแล้ว 10 ปากพร้อมทั้งไล่กล้องวงจรปิดยอมรับว่า ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้างคนร้ายมีความชำนาญใช้ช่วงการจราจรติดขัดในการหลบหนียืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจแต่คดีการจับคนแชร์ข่าว บก.ปอท.มีพยานหลักฐานชัดเจนจึงสามารถดำเนินคดีได้รวดเร็วกว่า

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ