'ศักดิ์สยาม ชิดชอบ' เผยกำลังสร้างถาบันฝึกอบรมคนพันธุ์บุรีรัมย์ โดยร่วมมือกับพี่ชาย เพื่อปั้นท่องเที่ยวและกีฬา ให้ปังทุกจังหวัด

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. คณะการจัดการการท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)  ร่วมกับพรรคการเมือง 9 พรรค ได้แก่ พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ พลังภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคเสรีรวมไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชนปฏิรูป และพรรคเพื่อไทย จัดสัมนา”นโยบายท่องเที่ยว.. พรรคไหนปัง” ซึ่ง เป็นการนำเสนอนโยบายด้านการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน ที่อาคารสยามบรมราชกุมารี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าววว่า พรรคภูมิใจไทยมีนโยบาย บุรีรัมย์โมเดล ซึ่งเมื่อก่อนจ.บุรีรัมย์อาจจะไม่มีคนรู้จัก แต่ปัจจุบันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ซึ่งเรามีวิธีในการที่จะทำให้ทุกจังหวัดเป็นเมืองท่องเที่ยว หากจ.บุรีรัมย์ทำได้ จังหวัดอื่นๆก็ต้องทำได้

"ต้องสร้างคนที่รู้และเข้าใจความคิดแบบบุรีรัมย์โมเดลไปทั่วประเทศ พรรคภูมิใจไทยจะสร้างสถาบันฝึกอบรมคนพันธุ์บุรีรัมย์ ซึ่งมี 10 หัวข้อใหญ่ๆ อาทิ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ มีมาตรฐานระดับโลก อาทิ การสร้างสนามแข่งรถระดับโลก ใครก็คิดว่า จะสร้างไปทำไม มีแต่จะขาดทุน เราต้องกล้าพัฒนาทรัพยากร เพื่อการท่องเที่ยว รู้จักการเพิ่มมูลค่า เช่น อีแต๋นที่นำมาตกแต่งแบบไทยๆ เป็นต้น" เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคจะเลือกใครมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นายเนวิน ชิดชอบเป็นได้ แต่นายเนวินไม่เล่นการเมืองแล้ว แต่ไม่เป็นอะไร เพราะพรรคภูมิใจไทย ได้ประสานในเรื่องการทำสถาบันฝึกอบรมคนพันธุ์บุรีรัมย์ คนที่ผ่านการอบรมจะเป็นรัฐมนตรีได้เลย คนจะมาเป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ต้องเข้าใจว่า สิ่งสำคัญเรื่องการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องสร้างรายได้ อย่าเอาแต่ปริมาณ ต้องทำให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วม และสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน เพราะประชาชนยังมีความยากจน และหนี้สิน

เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงคำว่าท่องเที่ยวเมืองรอง ว่า หลังเลือกตั้ง 24 มี.ค. แล้ว จะไม่มีคำว่า "เมืองรอง" เพราะจ.บุรีรัมย์พิสูจน์แล้วว่า จากจังหวัดที่ไม่มีอะไรเลย กลายมาเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยว 3 ล้านกว่าคน สำหรับแนวทางบุรีรัมย์โมเดล จะต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ รวมถึงให้โอกาสรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม ที่สำคัญเราต้องกล้าคิดใหญ่ เพราะคิดเล็กไม่ทำให้มีรายได้จำนวนมากๆได้

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงเรื่องนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติ ที่เข้ามาในประเทศจำนวนมากขึ้นด้วยว่า นักท่องเที่ยวเข้ามาจะนำรายได้มาให้ ประชาชนในพื้นที่ แต่ต้องทำกิจกรรม ต้องกล้าทำ อย่างที่ผ่านมาเรามีกิจกรรมชุมนุมคนขี่บิ๊กไบค์ และที่จะทำกิจกรรมในเดือน เม.ย.2562 เรากล้าทำคืองานชุมนุมกัญชาโลก (พันธุ์บุรีรัมย์) ไม่ใช่งานมาให้ดูดกัญชา แต่เป็นการให้ความรู้ความเข้าใจประโยชน์จากการใช้กัญชา ซึ่งคาดว่า จะมีคนเข้าเยี่ยมชมงานมากถึง 4 แสนคน สร้างรายได้ให้คนในจังหวัดอีกจำนวนมาก

สำหรับ การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว พรรคจะใช้ตัวแบบที่บุรีรัมย์โมเดล โดยจะขยายผลไปจังหวัดต่างๆ เรามีไทม์ไลน์ในการทำงาน จังหวัดแรกใช้เวลา 6 เดือนและ จังหวัดสุดท้าย 33 เดือน หลังจากที่เข้าไปทำงาน โดยจะมี สถาบันการศึกษาเป็นพี่เลี้ยง สิ่งนี้จะตอบโจทย์เรื่องความยากจนและหนี้สินของพี่น้องประชาชน

ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เชื่อว่า นโยบายด้านการท่องเที่ยวของพรรคจะสามารถตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนได้ โดยการทำเมกะโปรเจกต์ เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและอุดหนุนวิสาหกิจชุมชน พร้อมผลักดันรายได้การท่องเที่ยวต่อจีดีพีให้เทียบเท่ากับการส่งออก และเร่งผลักดันโครงสร้างพื้นฐาน

ขณะที่ นายโภคิน พลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคตั้งเป้าหมายจะสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว โดยเน้นพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจว่าการมาประเทศไทยทุกครั้งจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และมีแผนสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ๆอาทิ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ผจญภัย จัดงานเฟสติวัลต่างๆ เพื่อนำไปสู่การทำไทยแลนด์แพลตฟอร์ม ให้นักท่องเที่ยวสะดวกต่อการท่องเที่ยว และรีบทลายอุปสรรคการทำโฮมเสตย์ เพื่อให้ผู้คนทำมาร์เก็ตติ้งให้ได้มากที่สุด