THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

08 มีนาคม 2562 : 17:34 น.

ม.ธุรกิจบัณฑิตลงนามความร่วมมือภาคเอกชนกว่า 6 แห่ง สร้างบัณฑิตในหลักสูตรพันธุ์ใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21 ให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานในยุคธุรกิจดิจิทัล

เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มีพิธีลงนามความร่วมมือ จัดตั้ง DP School เพื่อสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ โดย วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและบัญชี CIBA และหลักสูตร DPU X มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้ร่วมมือกับ บริษัท ไวท์แรบบิทแมเนจเม้นท์ จำกัด (White Rabbit Management ) และภาคเอกชน6แห่งร่วมพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย

ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานภาคีสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) และ DPU X แห่งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้ลงนามความร่วมมือกับผู้ประกอบการภาคธุรกิจจัดตั้ง DP School เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่เน้นการพัฒนาศักยภาพของกำลังคนในด้าน Soft Skills ในด้านต่างๆ ที่จำป็นต่อการอยู่รอดในศตวรรษที่ 21 และในช่วงเวลาที่เทคโนโลยี 5G กำลังจะเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนโลกให้ล้ำไปอีก Soft Skills ดังกล่าวเป็นทักษะที่สร้างคนรุ่นใหม่ให้มีกระบวนความคิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาได้ดี มีความกล้า สามารถใช้ภาวะผู้นำและผู้ตามได้อย่างเป็นประโยชน์

ทั้งนี้ จะทำให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในโลกดิจิทัล ทักษะเหล่านี้จำเป็นต่อการพัฒนาธุรกิจและประเทศชาติอันสอดคล้องกับนโยบายชาติ ที่ต้องการบุคลากรซึ่งมีทักษะในด้าน Soft Skills โดยทักษะดังกล่าวเป็นทักษะที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทดแทนได้ โดยจะผลักดันให้การทำงานของคนในโลกแห่งอนาคตประสบความสำเร็จ เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทักษะการสร้างแรงจูงใจ และทักษะการเจรจาต่อรอง ทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์และการสร้างทีมงาน เป็นต้น

น.ส.นภสร ศิริภักดี ผู้อำนวยการแผนกทรัพยากรบุคคล Bangkok Marriott Marquis Queen's Park กล่าวถึงความร่วมมือกับ DP School ว่า โครงการดังกล่าวเป็นการช่วยผลักดันนักศึกษาให้ไปสู่การเรียนรู้ที่พบกับประสบการณ์จริง และเป็นการสร้างศักยภาพเพื่อเป็นบุคคลากรของหน่วยงานเช่นที่โรงแรมที่เป็นองค์กรใหญ่มีห้องพักมากกว่า 1,000 ห้อง และเป็นโรงแรมในระดับห้าดาว ดังนั้นบุคลากรที่เข้ามาร่วมงานต้องมีความพร้อม ที่จะประสานงานและทำงานร่วมกัน อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ นายตติย มีเมศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเลนโซ่ แอโรสเปซ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินส่งออกหลายประเทศและมีลูกค้าไปทั่วโลก อาทิ ฝรั่งเศส อเมริกา เยอรมัน อังกฤษ สิงคโปร์ เป็นต้นและเน้นการทำงานเป็นทีมโดยแต่ละโปรเจคจะใช้บุคลากรนับร้อยเพื่อผลิตชิ้นงานดังนั้นทุกคนจะมีความเชี่ยวชาญตั้งแต่ขั้นพื้นฐานและสามารถปรับใช้ในงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สำคัญสามารถก้าวต่อไปถึงระดับ Hi end เชื่อว่าฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวน่าจะย้ายมาที่ประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากประเทศสหรัฐและจีนมีปัญหากัน ถือเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ เพราะมีความต้องการบุคลากรด้านนี้มาก และสอดคล้องกับการเรียนการสอนที่เน้น Soft Skill คือทักษะต่าง ๆ อันจะเป็นส่วนสำคัญในอนาคตของแต่ละสาขาอาชีพ ที่ไม่ได้เน้นเพียงใบปริญญาแต่จะให้ความสำคัญทางด้านทักษะและความเชี่ยวชาญมากขึ้น โดยค่าตอบแทนที่เราให้จะมากกว่าบริษัทอื่น 20 เปอร์เซ็นต์

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ