THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

24 กุมภาพันธ์ 2562 : 16:30 น.

170 องค์กรภาคประชาสังคม ค้าน สนช.เร่งออกกฎหมายทิ้งทวน พร้อมจี้นายกฯทบทวนคำสั่ง คสช.ตั้งยึดพื้นที่เกษตรชั้นดี - ป่าชุมชนไปโดยไม่เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ภาคประชาสังคมจัดสัมมนาสาธารณะเรื่อง "เปลี่ยนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมีธรรมาภิบาล" ที่ห้องประชุมไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)โดย นายภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ ประธานสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (สคส.) กล่าวว่า ประเด็นสำคัญในการหารือ 2 เรื่อง คือ รัฐบาลควรทบทวนคำสั่งคสช.ที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชาชนจากโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะคำสั่ง คสช. ที่ประกาศเวนคืนที่ดินพื้นที่ภาคเกษตรชั้นดี พื้นที่สาธารณะ และป่าชุมชน โดยภาครัฐไม่ดำเนินการใด ๆ จึงควรยกเลิกคำสั่ง เพื่อคืนพื้นที่ดังกล่าวให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์

ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยุติการเร่งรัดการออกกฎหมาย เช่น ร่าง พ.ร.บ. ข้าว พ.ศ. ร่างพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และ ร่าง พ.ร.บ.ค้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พ.ศ. หรือกฎหมายสำคัญอื่นๆ ด้วย เนื่องจากเห็นว่า สนช.มีเพียง 240 คน แต่พยายามดึงดันจะพิจารณากฎหมายนับร้อยฉบับ ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่อย่างจำกัด ไปจนถึงการเลือกตั้งในวันที่ 23 มี.ค.2562ขณะที่จำนวน สนช.ที่ลงมติจริงเพียง 130-140 คนเท่านั้น

ขณะที่ กฎหมายมีจำนวนมากคณะกรรมาธิการย่อม ไม่รอบคอบในการพิจารณา โดยเฉพาะตำแหน่งประธานจะวนกันไปเป็นประธานคณะกรรมาธิการชุดอื่นๆหลายคณะ ดังนั้นบรรยากาศการทำงานดังกล่าวไม่เอื้อต่อการพิจารณาความรู้ความเชี่ยวชาญของคณะกรรมาธิการแต่ละชุด โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับกฎหมายอุทยาน หรือ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขาดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาสังคม ย่อมจะกลายเป็นปัญหาในอนาคต ภาคประชาสังคมได้รวบรวมรายชื่อได้ 170 องค์กร เตรียมยื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ให้ยุติบทบาทการออกกฎหมาย

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ