สลดหมีเหลือแต่เล็บ 1,666 ชิ้น ถูกแก๊งไทย-ลาว-ญวนขนขึ้นรถทัวร์จะส่งออกนอก ตร.สกัดจับได้กลางทาง
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ. 1 ร่วมกัน แถลงจับกุมตัวผู้ต้องหาในเครือข่ายลักลอบค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ ประกอบด้วย นายกะต่าย สีสุวัน อายุ 28 ปี สัญชาติลาว ,นายวราพงศ์ พันธ์แจ่ม อายุ 58 ปี ชาวไทย , นายเหงียน วัน เฮิบ อายุ 39 ปี สัญชาติเวียดนาม และนายธรรมนูญ คงดี พร้อมยึดของกลางเป็นซากสัตว์ป่า อาทิ เล็บของหมี 1,666 ชิ้น จากหมี 83 ตัว กะโหลกเสือ 4 ชิ้น มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
โดยชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบขนซากสัตว์ส่งออกนอกประเทศ โดยจะนำกระเป๋าบรรจุซากสัตว์โดยสารไปกับรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 16.00 น. ทราบว่ากลุ่มขบวนการได้นำซากสัตว์บรรจุกระเป๋าเดินทางส่งไปกับรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพ-ปากเซ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกตรวจสอบรถคันดังกล่าวได้ที่บริเวณหน้าตู้บริการตำรวจทางหลวงวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาจากการตรวจค้นพบกระเป๋าวางอยู่บริเวณช่องเก็บของด้านหน้าหน้าคนขับ สอบถามพบว่า นายกะต่าย สีสุวัน สัญชาติลาว ผู้ต้องหา รับว่าเป็นผู้รับกระเป๋าใบดังกล่าวมา โดยมีชายชาวเวียดนามชื่อมิ้นฯ เป็นผู้ประสานงานในการรับฝากและให้นำไปส่งให้กับชายชาวลาว อายุประมาณ 30 ปี ที่จะมารอรับกระเป๋าอยู่ที่ปากเซ และจากการตรวจค้นก็พบของกลางดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังขยายผลเครือข่ายลักลอบค้าซากสัตว์ป่าข้ามชาติ สามารถจับกุมตัว นายวราพงศ์ พันธ์แจ่ม และนายเหงียน วัน เฮิบ สัญชาติเวียดนาม ที่ทำหน้าที่จัดเก็บและบรรจุจัดส่ง ซากสัตว์ป่า พร้อมทั้งได้ตรวจค้นบ้านนายธรรมนูญ คงดี นายทุนที่รวบรวม ซากสัตว์ป่าต่างๆ และทำการตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลานได้แก่ ซากเต่า 2 ซาก และซากเต่าตนุ 1 ซาก ไว้เพื่อตรวจการอนุญาตครอบครอง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายธรรมนูญฯ ไว้แล้ว โดยการสืบสวนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีการลักลอบส่งซากสัตว์ป่าออกนอกประเทศมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง ส่วนเล็บหมีจะนำไปทำเครื่องราง และเครื่องประดับ จะมีราคาสูงถึง 5 เท่า
สำหรับขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติที่จับกุมได้นี้ เป็นขบวนการที่มีเครือข่ายกว้างขวาง มีการติดต่อค้าขายและสั่งการกันทางออนไลน์ มีเครือข่ายเชื่อมโยงหลายจังหวัดในประเทศไทย และเชื่อมโยงกับหลายประเทศ ทั่ง สปป.ลาว,เวียดนาม และจีน และมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้างาช้างที่จับกุมได้ที่จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผล ติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาลงโทษทุกราย และให้มีการนำกฎหมายฟอกเงินมาบังคับใช้ เพื่อทลายเครือข่ายโดยเฉพาะนายทุนให้หมดสิ้นไป