ปภ.เผย 4 จังหวัดภาคกลาง และ กทม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลคุณภาพอากาศกับกรมควบคุมมลพิษ พบว่า มีจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน คือ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เกินค่ามาตรฐาน 100 ได้แก่ 1.กทม. ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน แขวงบางนา เขตบางนา แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ แขวงดินแดง และ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน ริมถนนอินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี ริมถนนลาดพร้าว และแขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง
ทั้งนี้ ยังพบในพื้นที่ 2.จ.นนทบุรี ต.บางกรวย อ.บางกรวย 3.จ.ปทุมธานี ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง 3.จ.สมุทรปราการ ต.ทรงคะนอง และต.บางตลาด อ.พระประแดง ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง 4. จ.สมุทรสาคร ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน ริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อ.เมืองสมุทรสาคร และ5 .จ.นครปฐม ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม มีค่า PM2.5 ระหว่าง 54 – 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ AQI มีค่าระหว่าง 109 – 192 ซึ่งคุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นายชยพล กล่าวว่า ปภ.ได้ประสานจังหวัดแก้ไขปัญหาหมอกควัน โดยสนับสนุนปฏิบัติการฉีดพ่นน้ำ เพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด ส่วนพื้นที่ริมทางหลวงให้เฝ้าระวังการเผาในเขตริมทางหลวงอย่างเข้มข้น อีกทั้งประชาสัมพันธ์ผลกระทบของหมอกควันต่อสุขภาพอนามัย และข้อมูลคุณภาพอากาศให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนแก่ประชาชน ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ งดเว้นการเผาขยะและเศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อป้องกันสถานการณ์หมอกควันไม่ให้รุนแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจตามสถานที่ก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกทม.ยังพบเห็น ประชาชนต้องใช้ชีวิตท่ามกลางฝุ่นควันอยู่ในหลายพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง นอกจากเผชิญกับปัญหาฝุ่นควันในอากาศแล้ว ยังต้องเผชิญกับฝุ่นควันจากการก่อสร้างด้วย