ขสมก.ประกาศขึ้นค่าโดยสารทั้งรถร้อนรถเย็น รถร้อนเพิ่ม 1.50บ. รถแอร์เพิ่ม 2 บ.
นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. นี้ ขสมก. จะปรับขึ้นค่าโดยสารตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ที่ให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางที่วิ่งให้บริการในเขตกทม. และปริมณฑล แต่จะปรับราคาเป็น 2 ระยะ รถโดยสารธรรมดา (รถเมล์ร้อน) ให้ปรับไม่เกิน 10 บาท จากที่เก็บอยู่ 6.50 บาท ระยะแรกจะปรับขึ้น 1.50 บาทเป็น 8 บาทก่อน ตั้งแต่ วันที่ 21 ม.ค. 62-20 ม.ค. 63 ใช้เวลา 1 ปี จากนั้นตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 63 จะปรับขึ้นอีกรอบ 2 บาท จาก 8 บาท เป็น 10 บาท
ขณะที่ รถเมล์ปรับอากาศ(รถเมล์แอร์) ครีม-น้ำเงิน ที่เก็บอยู่ 10-18 บาทตามระยะทาง ให้ปรับขึ้นอีก 3 บาทเป็น 13-21 บาท ระยะแรกให้ปรับแค่ 2 บาทก่อนจาก10-18 บาทเป็น 12-20 บาท เริ่มตั้งแต่ 21 ม.ค. 62-20 ม.ค. 63 เช่นกัน จากนั้นตั้งแต่ 21 ม.ค. 63 จาก 12-20 บาท จะปรับขึ้นอีก 1 บาท เป็น 13-21 บาท
สำหรับรถเมล์แอร์ยูโรทูสีเหลืองส้ม ให้ปรับขึ้น 3 บาท เป็น 14-26 บาท จากที่เก็บอยู่ 11-23 บาท ระยะแรกจะปรับขึ้น 2 บาทก่อนเป็น 13-25 บาท เป็นเวลา 1 ปี จากนั้นตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. 63 จะเก็บ 14-26 บาท ขณะที่รถเมล์ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี) จากที่เก็บอยู่ 11-23 บาทตามระยะทาง ได้กำหนดอัตราค่าโดยสารใหม่ 4 กม. แรกไม่เกิน 15 บาท 4-16 กม. ไม่เกิน 20 บาท และเกิน 16 กม. ขึ้นไปไม่เกิน 25 บาท ทั้งนี้ กรณีผู้โดยสารใช้ทางด่วนรถเมล์แอร์ จะเก็บค่าทางด่วนเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อคนต่อเที่ยว จากเดิมไม่เก็บ ในส่วนของรถเมล์สาย A1-A4 และ S1 ยังเก็บราคาเดิม คือ A1-A2 ราคา 30 บาทตลอดสาย, A3-A4 ราคา 50 บาทตลอดสาย และ S1 ราคา 60 บาทตลอดสาย
นายประยูร กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. ขสมก.จะติดข้อความประชาสัมพันธ์การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารบนรถเมล์ทั้ง 2,700 กว่าคัน เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้โดยสาร รวม ทั้งเร่งฝึกอบรมพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารในการให้บริการที่มีคุณภาพมากขึ้นให้ผู้โดยสารทราบว่านอกจากการปรับขึ้นค่าโดยสารครั้งนี้ผู้โดยสารจะได้รับบริการที่ดี ขึ้นด้วย