4 องคมนตรีให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนรับมือพายุปาบึก

เมื่อวันที่ 4 ม.ค.เวลา 14.00 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)คณะองคมนตรี ประกอบด้วย นายพลากร สุวรรณรัฐ พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา พล.ร.อ.พงษ์เทพ หนูเทพ เดินทางร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้คณะทำงานและผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายในการเตรียมการป้องกันและแก้ไขผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึกในการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2562

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี กล่าวว่า คณะองคมนตรีมีความตั้งใจมาตรวจเยี่ยมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และเป็นกำลังใจให้กับคณะทำงานและผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนในการแก้ไขผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” โดยขอให้น้อมนำพระราชกระแสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานแผนป้องกัน แผนเผชิญเหตุ และแผนฟื้นฟู เมื่อประชาชนประสบภัยพิบัติทุกรูปแบบ โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์พร้อมให้การสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในด้านการมอบถุงพระราชทานและถุงกู้ภัยฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ(บกปภ.ช.) เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2562 โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการกลาง ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย คณะกรรมการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผู้แทนศูนย์อำนวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ผู้แทนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมการประชุม โดยเป็นการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ และจ. เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ ผ่านระบบ Video Conference

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้ดำเนินการตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการเตรียมการป้องกันและแก้ไขผลกระทบจากพายุโซนร้อน "ปาบึก" มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้น้อมนำแนวทางตามพระราชกระแสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2560 มาเป็นแนวทางปฏิบัติ คือ 1.ให้ทุกหน่วยดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 2.ให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ และไม่ให้การปฏิบัติซ้ำซ้อนกัน 3. น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางปฏิบัติ นอกจากนี้ ได้มีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในพื้นที่ และได้มีประชาชนจิตอาสาร่วมดูแลพี่น้องประชาชน

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายทหาร และพลเรือน ได้รายงานการคาดการณ์และแนวโน้มสถานการณ์ พร้อมมาตรการของหน่วยงานและการเตรียมการให้ความช่วยเหลือประชาชน และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 16 จังหวัดได้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ผ่านระบบ Video Conference

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเตรียมการป้องกันผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากประชาชนในพื้นที่ ทำให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ภายหลังจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ จะเร่งดำเนินการตามพระราชกระแสในเรื่องการดูแลให้ประชาชนเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งทุกหน่วยงานจะได้เร่งดำเนินการใน 2 เรื่อง คือ 1.ที่พักอาศัยของประชาชน และ 2. การประกอบอาชีพ โดยสำรวจ ฟื้นฟู ทั้งด้านการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งจังหวัด และอำเภอจะเร่งสำรวจเพื่อเยียวยาและช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพของเกษตรกรและประชาชนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบต่อไป สำหรับ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” และพร้อมสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว สามารถแจ้งสายด่วนสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง