โซนร้อนปาบึกเปลี่ยนทิศ เคลื่อนตัวต่ำลง คาดการณ์ใหม่จะไม่ขึ้นฝั่งตรงรอยต่อชุมพร-สุราษฎร์แล้ว แต่จะเป็นเมืองคอนแทน
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 12 เรื่อง "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ระบุว่าเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (3 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง โดยมีศูนย์กลางห่างประมาณ 550 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือที่ละติจูด 6.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 104.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าจะเคลื่อนลงอ่าวไทยในวันนี้ (3 มกราคม 2562) และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงค่ำของวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
โดยมีผลกระทบดังนี้ ในวันที่ 3 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2562 บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือตั้งแต่วันที่ 3-5 มกราคม 2562
ด้านนายวัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาทางทะเล กล่าวว่า ตำแหน่งการเคลื่อนตัวของพายุปาบึกมีการเปลี่ยนแปลง จากเดิมคาดว่าจะเคลื่อนผ่านดอนสัก เกาะสมุย ผ่านสุราษฎ์ธานี รอยต่อชุมพร แต่ล่าสุดเคลื่อนตัวต่ำลง ทำให้สมุยได้รับผลกระทบน้อยลง โดยศูนย์กลางจะเคลื่อนเข้าจังหวัดนครศรีธรรมราช สอดคล้องกับแบบจำลองพยากรณ์ของญี่ปุ่น ส่วนฝนที่ตกช่วงเช้านี้ทางภาคใต้เป็นอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ อิทธิพลของพายุยังไม่เข้ามา โดยจะเคลื่อนสู่อ่าวไทยช่วง-บ่ายถึงค่ำ
"โดยเฉพาะที่อำเภอหัวไทร จะมีฝนตกหนักตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 4 มกราคม มีฝนตกรุนแรงตั้งแต่ 37-150 มิลลิเมตร ความเร็วลม 65กม.ต่อชม.พัดต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง และอาจจะเกิดสตอร์มเซิร์จสาเหตุที่ทำให้พายุเปลี่ยนทิศทาง เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นลงมา เกิดจากความแปรปรวนของความกดอากาศ"นายวัฒนา กล่าว