เผยยอดอุบัติเหตุ 4 วันช่วงปีใหม่ 2,194 ครั้ง เจ็บ 2,265 คน ดับ 236 ราย 'เชียงใหม่' แชมป์ กรมคุมประพฤติ เตรียมติดเครื่อง EM คดีเมาแล้วขับ 33 ราย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ธ.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม แถลงสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 เปิดเผยว่า วันที่สี่ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 561 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 51 ราย ผู้บาดเจ็บ 578 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 42.42 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 27.99 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.31 รถปิคอัพ 6.39
ทั้งนี้ เรียกตรวจยานพาหนะ 876,537 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 177,400 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 51,039 ราย ไม่มีใบขับขี่ 43,799 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สงขลา (23 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา 24 คน
อย่างไรก็ตาม สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน 27 - 30 ธ.ค.61 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,194 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 236 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,265 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 13 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 77 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ และนครราชสีมา จังหวัดละ 12 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 79 คน
นายประสาร กล่าวถึงภาพรวมของ 3 วันที่ผ่านมาพบว่าสถิติมากกว่าปีที่ผ่านมา ว่า ทุกภาคส่วน มีมาตรการที่จะลดปัจจัยเสี่ยงทั้งคนและถนน โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งเรารณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าตัวเลขน่าจะดีขึ้น เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำตัวเลขไปประเมินเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม โดยเฉพาะในวันที่ 31 ธ.ค. 61-1 ม.ค. 62ที่เป็นช่วงเดินทางกลับของพี่น้องประชาชน ที่ทุกหน่วยงานพร้อมดูแลให้ประชาชนกลับถึงภูมิลำเนาปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ คือเมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งในส่วนของกรมคุมประพฤติ ได้นำเอาเครื่องมืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตัว (EM) มาใช้กับผู้กระทำความผิดตามที่ศาลมีคำสั่ง ในช่วง4วันที่ผ่านมาศาลได้มีคำสั่งไปแล้วทั้งหมด 33 รายทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพใหานคร เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย โดยศาลจะให้โอกาสในการรอโทษการจำคุก โดยกำหนดเงื่อนไขการคุมประพฤติให้รายงานตัว ทำงานบริการสังคม รวมไปถึงการอบรม แต่บางกรณีที่ปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 150 มิลลิกรัม ขึ้นไปศาลจะสั่งให้มช้เครื่องมือ EM โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ระยะเวลา 15 วัน เพื่อช่วยลดอุบัติภัย ซึ่งกรมฯ มีเครื่องมือทั้งหมด 4,000 เครื่องทั่วประเทศ ทั้งนี้ในวันที่ 1 ม.ค. 62 สำนักงานคุมประพฤติจะเปิดเครื่องติดตามใน 33 ราย เพื่อติดตามคุมความประพฤติ