สถาบันวิทยาลัยชุมชน ขานรับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ชี้ กสศ.งบน้อยแต่ลงทุนถูกจุด ช่วยประเทศแก้เหลื่อมล้
เมื่อวันที่11 ธ.ค. ดร.ชุมพล พรประภา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันวิทยาลัยชุมชน (วชช.) เปิดเผยในการประชุมของผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชน 20 แห่งว่า ที่ผ่านมาสถาบันวิทยาลัยชุมชน ได้พัฒนาการจัดการเรียนการสอน ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเน้นหลักสูตรซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของท้องถิ่นและตลาดแรงงาน 4.0 ควบคู่กันไปด้วย
ทั้งนี้ จุดเด่นของวิทยาลัยชุมชน คือเข้าถึงความต้องการชุมชน อีกทั้งกรรมการสภาของแต่ละสถาบันมีทั้งผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หอการค้าจังหวัด ภาคเอกชน ทำให้เราสามารถจับจุดได้ว่า โจทย์ที่ท้องถิ่น ต้องการให้พัฒนาคือเรื่องใดบ้าง โดยในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันไป ล่าสุดได้เชิญกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มาร่วมประชุมและบรรยายให้แก่ผู้บริหาร วชช.ทั้ง 20 แห่งทั่วประเทศ เกี่ยวกับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ซึ่งเป็นทุนสนับสนุนที่มีลักษณะการทำงานแบบร่วมพัฒนา ยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน
“ถึงแม้ว่างบประมาณไม่ได้มากมาย แต่กสศ.คิดค้นลงทุนได้ถูกจุด เน้นกลุ่มเป้าหมาย เด็กและเยาวชนด้อยโอกาสจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำที่สุด จะได้มีโอกาสศึกษาต่อระดับสูงขึ้น และยังพัฒนาคุณภาพสถาบันสายอาชีพควบคู่ไปด้วย เป็นมิติใหม่ของการให้ทุนสนับสนุนที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ตอบโจทย์ชุมชนท้องถิ่นและโจทย์ประเทศ ” ดร.ชุมพล กล่าว
ด้าน นพ.สุภกร บัวสาย ผจก.กองทุน เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่า โจทย์สำคัญของกสศ.คือ ทำอย่างไรที่จะเพิ่มคุณภาพการศึกษา และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยมุ่งไปที่เด็กและเยาวชนจากครอบครัวรายได้ต่ำสุด 20% แรกของประเทศ ประมาณ 160,000 คนต่อรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ก้นบึ้งของสังคมไทย ให้มีโอกาสศึกษาต่อเต็มศักยภาพ ต้องขอบคุณรัฐบาลและสำนักงบประมาณที่มองเห็นถึงประโยชน์ และสนับสนุนให้กสศ.คิดค้นโครงการ ที่เป็นนวัตกรรมรวมถึงการสร้างต้นแบบ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
“โครงการนี้จะช่วยให้เกิดผลประโยชน์ใน 3 ประเด็นหลัก คือ1.สร้างโอกาสให้นักเรียนยากจนราว 2,500 คน นักเรียนกลุ่มนี้แทบจะไม่เคยมีโอกาสได้เรียนสูงกว่ามัธยมปลาย ได้เรียนต่อสายวิชาชีพ 2.สถาบันวิชาชีพมีการปรับตัว ขณะนี้หลายแห่งกำลังพัฒนาแผนงานแนวใหม่เจาะจงสาขาที่จบแล้วมีอนาคต 3.ตอบโจทย์ประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรมโดยจะเริ่มทำงานกันทันทีตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 นี้ ซึ่งวิทยาลัยชุมชนเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของโครงการ ที่สามารถพัฒนาสู่การเป็นสถาบันนวัตกรรมชั้นสูง ช่วยสร้างกำลังแรงงานสายอาชีพที่จะเป็นกำลังคนคุณภาพของประเทศได้ ”นพ.สุภกร กล่าว
ทั้งนี้ กำหนดรับข้อเสนอโครงการตั้งแต่ วันที่15-28 ธ.ค. 2561 สามารถติดตาม ข่าวสารที่ www.EEF.or.th หรือ สายด่วน โทร 02-079-5475 กด 2 ในวันและเวลาราชการ