กรมควบคุมโรคยันยังไม่พบโอมิครอนสายพันธุ์ BA4.5 ในประเทศไทย ย้ำที่มีการแชร์ข้อมูลเป็นข้อมูลเท็จเตือนอย่าแชร์ข่าวปลอม
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน BA.4/BA.5 มีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลตา 5 เท่า และมีอัตราเสียชีวิตสูงว่า เป็นข้อมูลที่ไม่มีหลักฐานและแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล แม้องค์การอนามัยโลกจะจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลและต้องเฝ้าระวัง (VOC lineages under monitoring :VOC-LUM) เนื่องจากความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น หลบภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอว่ามีความรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกให้ความเห็นว่า ต้องเฝ้าระวัง BA.5 อย่างใกล้ชิด เนื่องจากแอนติบอดีที่จะทำลายฤทธิ์ของเชื้อใช้ได้น้อย ยารักษาตอบสนองน้อยลง แต่ยังสรุปไม่ได้ว่ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่ฐานข้อมูลโลก GISAID พบ BA.5 สะสม 31,577 ตัวอย่าง ใน 62 ประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 16 เป็นร้อยละ 25 ส่วน BA.4 พบสะสม 14,655 ตัวอย่าง แนวโน้มลดลงจากร้อยละ 16 เหลือร้อยละ 9
สำหรับ ประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังพบ BA.4 และ BA.5 ในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศในสัดส่วนสูงกว่าผู้ติดเชื้อในประเทศ และจะมีการศึกษาในผู้ป่วยอาการหนักว่ามีความสัมพันธ์กับ 2 สายพันธุ์นี้หรือไม่ แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ขอให้มีการป้องกันตนเองที่เหมาะสม เพื่อช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อทุกสายพันธุ์ นอกจากนี้ การที่ประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันสูงมากพอยังเป็นเรื่องที่สำคัญและมีความจำเป็น เพราะจะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อและป้องกันอาการรุนแรงได้
่ขณะที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของกรมควบคุมโรคระบุว่า ข่าวปลอม!! อย่าแชร์ลือ!!พบโอไมครอน สายพันธุ์ BA4.5 ในไทย จากการตรวจสอบพบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ