อดีตส.ส.นครศรีธรรมราชโพสต์ครบรอบ 8 ปีการทำรัฐประหารและสืบทอดอำนาจประเทศล้มเหลวในหลายด้าน ไม่คุ้มค่ากับประชาธิปไตยที่เสียไป
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ข้อความว่า การรัฐประหารของคณะนายทหารกลุ่มหนึ่ง เมื่อปี 2549 และปี 2557 นับว่าเป็นความเสียของทั้ง 2 ครั้ง และไม่คุ้มค่าต่อการสูญเสียประชาธิปไตยของประเทศ
วันนี้เป็นวันครบรอบ 8 ปี การทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะนายทหารกลุ่มหนึ่ง จากวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศ ที่การเมืองเจอทางตัน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้ คือ
1.รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ลุแกอำนาจออก พรก.นิรโทษกรรม แบบเหมาเข่ง เพื่อล้างผิดให้คนโกง ท่ามกลางการต่อต้านของทุกฝ่าย 2.การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จากการออก พรก.นิรโทษกรรม เป็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อยาวนาน จนเกิดการเผชิญหน้ากับการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่สนับสนุนรัฐบาล 3.รัฐบาลรักษาการ ที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการนายกรัฐมนตรี ไม่ยอมลาออกจากการเป็นรัฐบาลรักษาการ 4.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะนายทหารเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการ เพื่อควบคุมการบริหารประเทศ
การที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำการรัฐประหาร และเป็นรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2557 จนมีการสืบทอดอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญปี 2560 รวมระยะเวลา 8 ปี ซึ่งเท่ากับวาระของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 2 สมัย ซึ่งเป็นเวลายาวนานเพียงพอ ที่จะปฏิรูปประเทศ พัฒนาประเทศให้สำเร็จตามที่ประกาศไว้ได้
ตลอดระยะเวลา 8 ปี ของการรัฐประหาร และการสืบทอดอำนาจ เกิดสภาพความล้มเหลวในหลายๆด้าน เช่น1.ด้านประชาธิปไตย มีแต่ถอยหลังเข้าคลอง ไม่มีการแก้ใขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยตามหลักสากล 2.ด้านการปฏิรูปประเทศในทุกด้าน ไม่มีความคืบหน้า และประสบความสำเร็จ ให้เห็นเป็นรูปธรรมเลย 3.ด้านการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น มีความล้มเหลว การทุจริตยังเกิดขึ้น ทุกหน่วยงาน ทุกระดับ ไม่มีทีท่าจะลดลงเลย4.ด้านการเมือง มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ในการเลือกตั้งทุกระดับมากที่สุด มากกว่ายุคใดๆ 5.ด้านเศรษฐกิจ มีการใช้นโยบายแบบประชานิยม แจกเงินให้กับประชาชน ไม่ต่างกับรัฐบาลระบอบทักษิณ ก่อหนี้ให้กับประเทศมากที่สุด และประชาชนมีความยากจนเพิ่มขึ้น 6.ด้านสังคม มีการระบาดของยาเสพติดอย่างแพร่หลาย คนติดยาก่อปัญหาทำร้ายคนในครอบครัว มีการฆ่าตัวตาย ปรากฎเป็นข่าวรายวัน 7.ด้านความสงบเรียบร้อยของประเทศ ที่เคยประกาศว่า ต้องการความสงบจบที่ลุงตู่ ก็ไม่เป็นจริงตามที่ประกาศไว้ ความขัดแย้งทางการเมืองยังคงอยู่ การสลายสีเสื้อล้มเหลว การเมืองยังแบ่งฝ่าย เลือกข้างกันอยู่ และเป็นยุคที่มีสถาบันเบื้องสูง ถูกนำมาเคลื่อนไหวทางการเมืองมากที่สุด
ผมขอประกาศจุดยืนทางการเมืองอีกครั้งหนึ่งว่า ผมไม่เห็นด้วย และไม่สนับสนุนการรัฐประหาร จะขอยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป