อธิบดีกรมอนามัยเผยการเรียนออนไลน์จากผลกระทบโควิดทำให้พฤติกรรมของเด็กไทยวัยเรียนเปลี่ยนไป เตือนผู้ปกครองต้องเตรียมความพร้อมก่อนบุตรหลานเปิดเทอมทั้งปรับเวลากิน-นอน ลดหวานหมั่นออกกำลังกาย

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่มีการเรียนออนไลน์ เด็กบางคนตื่นสาย ส่งผลให้พฤติกรรมการกินอาหารของเด็กไทยวัยเรียน มักไม่กินอาหารมื้อเช้า หรือตื่นสายเลยเวลากินมื้อเช้า และยังมีพฤติกรรมกินผัก ผลไม้น้อยลงหรือไม่กินเลย แต่นิยมกินอาหารสำเร็จรูป กึ่งสำเร็จรูป ฟาสต์ฟู้ด ขนมขบเคี้ยวและเบเกอรี่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบกับสุขภาพเด็กโดยตรง ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ขาดสารอาหารบางชนิด ก่อให้เกิดโรคได้ ขณะเดียวกันก็เสี่ยงที่จะได้รับอาหารบางกลุ่มในปริมาณมากเกินไป ก่อให้เกิดภาวะโภชนาการเกิน น้ำหนักตัวมาก เป็นโรคอ้วนได้

ทั้งนี้ ช่วงเปิดเทอมที่ใกล้จะมาถึง พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรดูแลลูกหลานให้มีพฤติกรรมการกินที่ดี ทานครบ 3 มื้อ ครบ 5 หมู่ ได้แก่ กินไข่ ผัก ผลไม้ เป็นประจำ ดื่มนมรสจืด เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต ทั้งร่างกายและพัฒนาการทางสมอง ปลูกฝังพฤติกรรมการกินที่ดี หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารรสจัด ขนมกรุบกรอบ ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม และผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนุน ทุเรียน ลำไย ลองกอง เป็นต้น หากเด็กอยากดื่มน้ำหวานให้เลือกดื่มน้ำผลไม้สดไม่เติมน้ำตาลแทน เลือกกินผลไม้รสไม่หวานจัดเป็นอาหารว่างแทนขนมหวาน รวมถึงกินขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลมให้ลดน้อยลง เพื่อสร้างความเคยชินในการรับรส และไม่ติดรสหวาน พยายามควบคุมการกินน้ำตาลแต่ละวันให้ไม่เกิน 4 ช้อนชา

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า พ่อแม่ต้องกำหนดเวลาในการดูโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์อย่างชัดเจน จัดกิจกรรมให้เด็ก ได้มีโอกาสเข้าสังคมเพื่อให้เด็กได้มีการใช้ภาษาในการสื่อสารและได้รับประสบการณ์ชีวิตที่ดี ออกกำลังกายวันละ 60 นาทีทุกวัน เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยเท่หุ่นดี สูงดีสมส่วน สุขภาพแข็งแรง และเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก เพื่อกลับเข้าสู่ระบบการเรียนการสอนในโรงเรียน