THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

10 พฤษภาคม 2565 : 20:01 น.

คณะกรรมาธิการการศาสนาสภาฯเร่งยกร่างพ.ร.บ.คุ้มครองและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเอาผิดอาญาพระและสีกาทำพระพุทธศาสนามัวหมอง มีโทษหนักจำคุกสูงสุด 5 ปีปรับ 1 แสนบาท

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจงและให้ข้อมูลกรณีอดีตพระกาโตะ และ สีกาตอง ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ ผู้แทนจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) โดยมี นายสุชาติ อุสาหะ ประธานคณะกรรมาธิการกฯเป็นประธานการประชุม

นายสุชาติ กล่าวว่า ในการประชุมของคณะกรรมาธิการฯครั้งนี้เป็นการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายในกรณีอดีตพระกาโตะเข้าชี้แจงทั้งข้อกฎหมาย กฎกระทรวง และกฎเถระสมาคม จนท้ายที่สุดได้ข้อสรุปทั้งด้านกฎหมาย และแนวทางว่าจะดำเนินการในกรณีดังกล่าวต่อไปอย่างไร ในส่วนกรณีของอดีตพระกาโตะที่ปาราชิกแล้วจะกลับมาบวชใหม่ได้หรือไม่ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ทางสำนักพุทธฯ ยังไม่มีฐานข้อมูลที่ปรับเป็นปัจจุบันของวัดและสำนักสงฆ์กว่า 42,000 แห่ง และข้อมูลของพระภิกษุสงฆ์กว่า 250,000 รูป ดังนั้นการยืนยันตัวบุคคลจึงยังไม่อัปเดต หากเกิดกรณีอดีตพระสงฆ์ที่ปาราชิกกลับมาบวชใหม่จึงไม่สามารถมีข้อมูลที่อัปเดตได้

สำหรับ การแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสตามพระราชบัญญัติสงฆ์ มาตรา 36, 37, 39 ในกรณีอดีตพระกาโตะนั้น ยืนยันว่า อดีตพระกาโตะถือเป็นเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติ เนื่องจากไม่มีคำสั่งแต่งตั้งตามระเบียบ

นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องการเปิดบัญชีของวัดเพ็ญญาติ ได้มีการตรวจสอบแล้วเป็นการเปิดบัญชีที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในส่วนของผู้มีอำนาจเบิกจ่ายเงินในบัญชีพบว่า ไม่เป็นไปตามระเบียบ เนื่องจากรายชื่อผู้เบิกจ่ายเงินวัดที่ผ่านมาไม่ใช่รักษาการเจ้าอาวาส หรือ ไวยาวัจกร ประเด็นนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าพนักงานตามกฎหมายพิจารณาสืบสวนต่อไปว่า เงินที่เบิกจ่ายไปไม่เป็นไปตามกฎหมายจะเป็นอย่างไรต่อ

ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ยืนยันว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นอดีตพระกาโตะได้เบิกจ่ายเงินออกจากวัดมากกว่า 6 แสนบาท ตามที่เปิดเผยต่อสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบพบว่าตัวเลขเบิกจ่ายเงินเฉพาะเดือนเม.ย.นั้นก็มากกว่า 6 แสนบาทแล้ว โดยตัวเลขที่ชัดเจนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ จากนี้ทางกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และตำรวจจะเดินหน้าตรวจสอบต่อไป ซึ่งในกรณีนี้จะเข้าข่ายการยักยอกทรัพย์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับอดีตพระกาโตะในฝ่ายต่างๆ ด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เมื่อพระสงฆ์ปาราชิกแล้ว จะไม่เพียงสึกอย่างเดียวแต่จะมีโทษทางอาญาทั้งอดีตพระและสีกาที่ทำผิดด้วยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา ซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างพระราชบัญญัติของคณะกรรมาธิการฯ โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปีและปรับสูงสุด 100,000 บาท

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ