THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

08 พฤษภาคม 2565 : 12:19 น.

ตำรวจ ปส.รวบเอเยนต์ค้ายาเสพติดระหว่างประเทศรายสำคัญลำดับที่ 11 หลังข้ามฝั่งกลับมาที่ท่าเรือปากบารา พบพัวพัคดียาเสพติดหลายคดี จน ป.ป.ส.ต้องประกาศตั้งเงินรางวัลนำจับสูงถึง 1.5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ อํามาตย์โยธิน รอง ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.อภิรัตน์ โทจำปา ผกก.3 ปส.4 พ.ต.ท.กฤษฎิ์พงษ์ธร ธนากรวิริยะ รอง ผกก.3 ปส.4 พ.ต.ท.มนตรี เอี่ยมรัมย์ รอง ผกก.3 ปส.4 นำกำลังจับกุมนายอับดุลรอพี หรือแบดี หรือ บังดี หรือ ธวัชชัย อุแม หรือ เบญมะอูเซ็ง อายุ 54 ปี ชาว จ.ปัตตานี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 67/65 ลง 25 ม.ค.65 ข้อหา"ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ชนิดร้ายแรง (เฮโรอีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน" โดยจับได้ที่บริเวณท่าเรือปากบารา ม.2 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. เปิดเผยว่า นายอับดุลรอพี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ลำดับที่ 11 ตามโครงการประกาศสืบจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ประจำปี 2565 โดย ป.ป.ส. ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับไว้สูงถึง 1.5 ล้านบาท ที่ผ่านมาพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร.ได้สั่งให้ตำรวจ บช.ปส.เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญมาตลอด แต่ด้วยความชำนาญพื้นที่ของผู้ต้องหา ข้ามไปมาระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอยู่เป็นประจำ ตำรวจ บก.ปส.4.จึงได้ใช้ระบบฐานข้อมูล(Big Data) วิเคราะห์ข้อมูลและเฝ้าติดตาม แกะรอยสืบสวนเรื่อยมา จนล่าสุดพบว่านายอับดุลรอพี ได้ข้ามเรือกลับมาที่ท่าเรือปากบารา จึงวางแผนจับกุมตัวได้ดังกล่าว นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดี พร้อมขยายผลหาผู้ค่วมขบวนการต่อไป

สำหรับ ประวัตินายอับดุลรอพี หรือแบดี อุแม นับเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในภาคใต้ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ได้ว่าจ้างให้นายอดุลย์ เสริมศาสน์ อายุ 56 ปี นายสุกีลฮารง หรืออารง หะมะ อายุ 44 ปี และนายอัสมา หรือซาฮา สามะ อายุ 30 ปี มารับเฮโรอีน 31 ถุง น้ำหนักประมาณ 12.080 กิโลกรัม มูลค่า 20 ล้านบาท เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้า ก่อนจะถูกตำรวจบช.ปส.จับได้พรัอมของกลาง ส่วน นายอับดุลรอพี หลบหนีไปได้

นอกจากนี้ ยังพัวพันคดียาเสพติดอีกหลายคดี ส่วนใหญ่จะข้ามไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านทำให้ยากต่อการจับกุม จนถูกประกาศเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ลำดับที่ 11 ตามโครงการประกาศสืบจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ประจำปี 2565 โดย ป.ป.ส. เงินรางวัลนำจับสูงถึง 1.5 ล้านบาท รวมทั้งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับนายอุสมาน สะแลแมง นักค้ายาเสพติดรายสำคัญอีกรายที่ยังหลบหนีอยู่ขณะนี้

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ