นครศรีธรรมราช-“หลวงพี่กาโตะ” เปิดใจพร้อมเข้าสู่กระบวนการสอบสวนปมคลิปเสียงฉาว ขอยุติความวุ่นวายในการให้ข้อมูลผ่านสื่อ

จากกรณีกระแสข่าวเหตุการณ์คลิปเสียงคล้ายกับพระหนุ่มนักเทศน์ชื่อดังที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีการายหนึ่งชื่อ “ตอง” จนกลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นยังมีภาพหน้าจอที่ระบุว่าเป็นการพูดคุยระหว่างสีกากับพระ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่ “พระพงศกร จันทร์แก้ว” หรือ “หลวงพี่กาโตะ” พระนักเทศน์ชื่อดังในภาคใต้ ขณะที่ต้นเสียงของผู้หญิงได้ออกมายอมรับว่าเป็นการแต่งเรื่องขึ้น เพราะป่วยโรคไบโพลาร์และมีใบรับรองแพทย์

ล่าสุด พระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ “หลวงพี่กาโตะ”เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขอบคุณผู้ที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอด รวมทั้งขอบคุณผู้ที่ยังเชื่อมั่นในตนเอง จากกระแสข่าวมาจนถึงวันนี้ที่แพร่หลายออกเริ่มเลยเถิดไปมากแล้ว ทางคู่กรณีเขาก็ออกมายืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง พระผู้ใหญ่ได้กรุณาให้กำลังใจ ในฐานะที่ตนเป็นพระชั้นผู้น้อยกับการเจอกับเรื่องแบบนี้ ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น

พระพงศกร กล่าวว่า ด้วยเหตุการณ์ตอนนี้ที่วุ่นวายอย่างมากในฐานะที่เป็นผู้ถูกกล่าวอ้างกล่าวหา จึงขอยุติความวุ่นวายตรงนี้เอาไว้ก่อน ขณะที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ด้วยเหตุนี้จึงขอยุติความเคลื่อนไหวข้อมูลต่างๆ ที่จะให้กับสื่อ เนื่องจากไม่ได้เป็นประโยชน์ใดๆ เลย ที่เหลือนั้นขอให้เข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการ ยืนยันว่ายินดีให้ข้อมูลข้อเท็จจริงทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้ถูกต้องและชัดเจน ผลจะออกมาแบบไหนยินดีที่จะน้อมรับ

อย่างไรก็ตาม พระพงศกร ซึ่งมีท่าทีผ่อนคลายกับเรื่องนี้ ได้กล่าวให้กำลังใจผู้ที่กำลังเคร่งเครียดว่า “ทุกคนไม่ควรเคร่งเครียดกับปัญหาทุกอย่าง อาตมาแม้จะเจอเรื่องร้ายแรงแต่ก็ไม่เครียด ควรจะต้องแกร่งและชัดเจนเด็ดเดี่ยวในการเผชิญกับปัญหา”

ทางด้านพระครูสิริธรรมาภิรัต (ธรรมรัต อริยธมฺโม) เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุต) กล่าวว่า ในวันนี้ (29 เม.ย.65) ได้ประชุมคณะกรรมการที่ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนในเรื่องดังกล่าว ที่ศรีสมบูรณ์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช และมีรายงานว่า ขณะนี้ได้มีการติดตามข้อมูลในเชิงลึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน มีหลายประเด็นที่ต้องจับตา ทั้งเรื่องการจัดการภายในวัด การจัดการเงินรายได้ของวัด ความขัดแย้งบางอย่างที่เป็นชนวนการจัดการ จึงมีการปล่อยข้อมูลอย่างเป็นระบบ ซึ่งพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ทราบกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมที่จะพิจารณาให้ความเป็นธรรมต่อไป.