นครราชสีมา-“สุวัจน์” เห็นด้วยศบค.ชุดใหญ่มีมติคลายล็อกเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ชี้จะสามารถช่วยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็ว ย้ำการท่องเที่ยวจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีเร็วกว่าการลงทุน

จากกรณีที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธาน ศบค.ชุดใหญ่ ได้มีมติคลายล็อกรับเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พ.ค. 65 ยกเลิก "เทสแอนด์โก" ตรวจแค่ ATK ก็เที่ยวได้เลย เพื่อหวังฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว พร้อมปรับโซนสีใหม่เหลือแค่เหลือง-ฟ้า นั่งดื่มในร้านได้ถึงเที่ยงคืน และสั่งเร่งฉีดวัคซีนในเด็ก-บุคลากรครู รับเปิดเทอมแบบออนไซต์ 17 พ.ค.นั้น

เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เปิดเผยว่า ตนเองเห็นด้วยกับ ศบค.ที่มีมติคลายล็อกเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เพื่อปรับตัวเข้าสู่โหมดฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะเวลานี้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ค่อนข้างที่จะควบคุมได้ และเป็นมาตรการที่ทุกประเทศทั่วโลกก็ใช้กัน ทุกประเทศก็เดินตามแนวนี้เริ่มเปิดประเทศเต็มรูปแบบ แต่ก็จะมีเรื่องมาตรการอื่นๆ เข้ามาดูแลการระบาดโควิด-19 เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ ในปีที่แล้วเศรษฐกิจโลกดีมากขยายตัวถึง 6% ของไทยก็เริ่มเป็นบวก แต่มาปีนี้เศรษฐกิจกำลังจะดีอยู่แล้ว กลับมาเจอปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน และน้ำมันแพง ดึงเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยตกต่ำลงมาอีก ประกอบกับช่วงที่เกิดปัญหาโควิดใหม่ๆ เรากู้เงินมาเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีก อย่างปีนี้เงินเฟ้อ 4-5% แต่ขณะที่เศรษฐกิจโตแค่ 2-3% เท่ากับว่าเราขาดทุน ฉะนั้นวันนี้เราต้องเร่งเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตได้เร็วที่สุด ต่างจากการลงทุน ซึ่งจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี จึงจะเห็นผล

"หากสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ให้เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยทุกพื้นที่ที่มีปัญหาเศรษฐกิจ ก็จะส่งผลให้ทุกอาชีพที่อยู่ในพื้นที่การท่องเที่ยว มีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนมาก ดังนั้นการที่รัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบเช่นนี้ถือว่าถูกต้องแล้ว"นายสุวัจน์กล่าว