โฆษกศาลยุติธรรมเตือนวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ขับรถเมาไม่ขับปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครั หากเมาขับต้องขึ้นศาล โทษหนัก-เบาตามพฤติการณ์
เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวแสดงความห่วงใยและย้ำเตือนการระมัดระวังอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับช่วงเดินทางเทศกาลวันหยุดยาวสงกรานต์ ว่า ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลแต่ละปีมักจะมีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุการเมาแล้วขับ โดยเมื่อพบการกระทำผิดกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ก็จะส่งฟ้องเป็นคดีสู่ศาลตามพื้นที่เกิดเหตุ สถิติคดีในอดีตก็มักจะพบว่าการดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับช่วงเทศกาลมีจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆ
ที้งนี้ ในปี 2565 ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวสงกรานต์ปรากฏตามข่าวพี่น้องประชาชนเริ่มทยอยเดินทางออกต่างจังหวัดแล้วตั้งแต่ช่วงเสาร์-อาทิตย์ดังนั้นขอให้ผู้เดินทางต้องขับขี่รถเดินทางด้วยความปลอดภัย และระมัดระวังอย่างยิ่งในการที่จะปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เสพยาเสพติดขณะขับขี่ สวมหมวกกันน็อคขณะขี่รถ เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ขับขี่ ผู้ที่ร่วมเดินทาง และประชาชนทั่วไปผู้ใช้เส้นทางสัญจรบนท้องถนน อีกทั้งลดความเสี่ยงการสูญเสียต่างๆ จากอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดตามมาได้ และลดอัตราถูกดำเนินคดีส่งฟ้องด้วย
สำหรับ การรณรงค์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชาสัมพันธ์มาตรการบังคับใช้กฎหมาย "เมาแล้วขับ จับขังจริง" แก่ผู้กระทำผิดกรณีเมาแล้วขับในช่วงวันที่ 11-17 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงควบคุมเข้ม 7 วันระวังอันตราย โดยนำร่องพื้นที่เขตอำนาจศาลภาค 6 (จังหวัดภาคกลางตอนบนและภาคเหนือ) เพื่อสร้างความตระหนักแก่ผู้ขับขี่และลดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายจะต้องถูกส่งตัวฟ้องศาล ซึ่งศาลจะพิจารณาพิพากษาลงโทษตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน โดยโทษนั้นมีความแตกต่างกันตามพฤติการณ์ของแต่ละคนที่ได้กระทำจริง ความหนัก-เบาจะขังจริงหรือไม่เป็นดุลยพินิจที่ศาลจะพิจารณาจากคำให้การ ประกอบพยานหลักฐาน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกำหนดโทษอัตราใด เช่น จำคุก รอลงอาญา การสั่งคุมประพฤติ เพื่อลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ และการสูญเสียจากพฤติกรรมดื่มแล้วขับโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลวันหยุดยาว จึงฝากให้พี่น้องประชาชนทุกคนตระหนักถึงการขับขี่ปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎจราจร และ ใส่ใจผู้ร่วมใช้เส้นทางจราจรด้วย