ศบค.ให้คงมาตรการป้องกันการควบคุมโรคยังจำกัดเวลาดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ได้ไม่เกินเวลา 23.00 น.
เมื่อวันที่ 8 เมษายน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ศบค.เห็นชอบคงระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ โดยยังคงระดับพื้นที่สี และให้คงมาตรการป้องกันการควบคุมโรค โดยคงมาตรการจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารสำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) และพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. รวมถึงคงมาตรการจำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ต้องเป็นร้านที่ผ่านมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับ มาตรการสถานบริการและสถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ ให้ผู้ประกอบการเปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ ตามมาตรการที่กำหนด โดยจะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ เมื่อมีความพร้อมโดยไม่กำหนดระยะเวลา
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ได้รับทราบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รายงานว่าให้มีการตรวจ ATK ในลักษณะการตรวจด้วยตัวเองในกลุ่มเสี่ยง โดยได้มีการกระจายชุดตรวจ ATK ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ก.ย.2565 เตรียมไว้ทั้งหมดประมาณ 22.8 ล้านชิ้น และช่วงที่ผ่านมาได้ใช้ไปแล้วประมาณ 1 ล้านชิ้น 1.2 ล้านคน พบว่ามีผลบวกประมาณ 2.3% ใช้ต้นทุนต่อชุดประมาณ 55 บาท งบประมาณที่ได้ขออนุมัติไปแล้ว 170 ล้านบาท
ทั้งนี้ ศิริราชพยาบาล ร่วมกับภาคเอกชนได้มีการผลิตชุดตรวจ ATK ในประเทศไทย โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 45 บาทต่อชิ้น ผลิตได้ประมาณ 2 แสนชิ้นต่อเดือน ซึ่งนายกฯ ชื่นชมและระบุว่า ถ้าเป้าหมายใช้ชุดตรวจ ATK เป็นล้านชิ้นเป็นไปได้หรือไม่ ว่าจะเพิ่มชุดตรวจ ATK ดังกล่าวให้ไปถึง 1 ล้านชิ้น โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวยืนยันว่า มีความเป็นไปได้ และขอให้เพิ่มช่องทางในการดำเนินการร่วมกับภาครัฐร่วมกับองค์การเภสัชกรรมเพื่อให้ราคาถูกลง