ศบค.มท กำชับกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เร่งสร้างการรับรู้ให้ประชาชนตระหนักและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มข้นต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อลดการระบาดโควิด-19
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดจะมีพี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) จึงได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์รณรงค์แนวปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ทั้งมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด (Universal Prevention) และมาตรการป้องกันส่วนบุคคล (DMHTT) เช่น ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่สัมผัสหน้ากาก ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด กินอาหารปรุงสุกใหม่ แยกสำรับใช้ช้อนกลางส่วนตัว หากสงสัยว่าตนเองเสี่ยงตรวจด้วย ATK บ่อย ๆ เพื่อยืนยันว่าติดเชื้อหรือไม่ รวมถึงแจ้งผู้ประกอบการและผู้จัดกิจกรรมดำเนินมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID Free Setting) สำหรับ การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุมชนและการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ และประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือครบกำหนดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 และ 4 ให้เร่งเข้ารับวัคซีน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า จากรายงานข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ของศบค. และกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น ศบค.มท. จึงได้เน้นย้ำไปยังปลัดกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เร่งประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทางการสื่อสารในพื้นที่ เพื่อรณรงค์และชี้แจงทำความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนักและร่วมกันลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 อย่างเข้มข้นและจริงจัง โดยใน “กรณีเป็นผู้ที่ตรวจพบว่าตนเองติดเชื้อหรือเป็นผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง” ต้องปฏิบัติตนตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรค อาทิ การกักตัว การไม่พบปะหรือรวมกลุ่มกับบุคคลอื่น และงดเข้าร่วมกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมย้ำเตือนให้พี่น้องประชาชนทุกคนต้องป้องกันตนเองขั้นสูงสุดแบบ Universal Prevention และตระหนักเสมอว่า “แม้จะได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์แล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้” แต่จะช่วยลดความรุนแรงของอาการป่วยจากการติดเชื้อได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกคน จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกันป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข (Universal Prevention และ DMHTTA) อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยควบคุมการติดเชื้อได้ รวมทั้งขอความร่วมมือสถานประกอบการ และผู้จัดงานต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID-Free Setting เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนผู้ร่วมงาน นอกจากนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้หมั่นตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK อย่างต่อเนื่อง โดยหากพบว่าตนเป็นผู้ติดเชื้อ ต้องทำการกักตัว และไม่พบปะ รวมกลุ่มกับบุคคลอื่น หรือร่วมกิจกรรมใดใด และเข้าสู่กระบวนการรักษา โดยสำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นตามจำนวนแล้ว ต้องพึงระลึกเสมอว่า การฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แต่เพียงลดความรุนแรงของอาการของโรคเท่านั้น ดังนั้น พี่น้องประชาชนทุกคนต้องระมัดระวังตนเองปฏิบัติตามหลักการป้องกันตนเองสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของตนเองและสมาชิกในครอบครัว