กมธ.สาธารณสุขหนุนสสส.รณรงค์จัด“ตั้งสติก่อนสตาร์ท สงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย” เพื่อลดอุบัติเหตุ เผยพ.ร.บ.ควบคุมน้ำเมาฉบับใหม่ใกล้มีผลบังคับใช้มั่นใจลดอุบัติเหตุท้องถนนได้มาก
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่รัฐสภา ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ และโฆษกคณะกรรมาธิการสาธารณสุข(กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ขอสนับสนุน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ที่ออกมารณรงค์แคมเปญ “ตั้งสติก่อนสตาร์ท สงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ เพื่อให้ประชาชนที่จะออกเดินทางเกิดความตระหนักและมีสติการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และอยากเชิญชวนให้ผู้ที่ออกเดินทางในช่วงเทศการสงกรานต์ได้มีการเตรียมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาให้รอบคอบ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญที่จะมีประชาชนออกมาใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก
ทั้งนี้ การร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ช่วยรณรงค์ดื่มไม่ขับ ตั้งสติก่อนสตาร์ทในช่วง 7 วันอันตราย เป็นส่วนสำคัญมากในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทำให้ยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตลดลง และขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์ในแคมเปญนี้ จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ขับขี่พักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อที่จะได้มีสติในการขับรถ และที่สำคัญอย่าลืมมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง เมื่อเข้าห้องน้ำสาธารณะให้หมั่นล้างมือบ่อยๆและเว้นระยะห่างทางสังคม
ดร.พัชรินทร์ กล่าวว่า ในฐานะเป็นกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร และในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพิจารณาปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายต่อเนื่อง เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุการใช้รถใช้ถนนอย่างยั่งยืน ล่าสุดร่างแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแล้ว และกำลังจะมีผลบังคับใช้ซึ่งจะช่วยในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้มากขึ้น ส่วนการตรวจแอลกอฮลล์ในเลือดแทนการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์นั้น ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ไม่ยินยอมให้เป่า หรือผู้ที่เกิดอุบัติเหตุไม่สามารถอยู่ในสถานะที่จะเป่าแอลกอฮอล์ได้ หากทำได้จริง ผู้คนจะตระหนักและเกรงกลัวกฎหมายมากขึ้น
ด้าน นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่าการรณรงณ์แคมเปญ “ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท” ในช่วยเทศกาลสงกรานต์นี้เพื่ออยากให้ทุกคนเดินทางอย่างปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน อย่างไรก็ตาม สคอ.มีข้อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้บังคับใช้กฎหมายเข้มข้นเน้น ควบคุมขับเร็ว ดื่มแล้วขับ การจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เน้นดูแลพิเศษห้ามขายให้เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี นอกจากนี้จุดตรวจ-จุดบริการ เสนอปรับเป็นหน่วยลาดตระเวน-เฝ้าระวังงานเลี้ยงสังสรรค์ สกัดคนดื่มแล้วขับ เตือนลดความเร็ว เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางโดยเฉพาะคนขับ ควรงดดื่มก่อนการเดินทางอย่างน้อย 3 วัน พักผ่อนให้เต็มที่ ส่วนคนที่ร่วมเดินทางไปด้วยต้องมีส่วนช่วยระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะหากผิดพลาดมีความสูญเสียเกิดขึ้น ทุกคนที่อยู่ในรถ ย่อมได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สสส.ได้ร่วมกับสคอ.กันจัดกิจกรรมสื่อสารรณรงค์ “ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท สงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย” ที่อาคารรัฐสภา เพื่อเชิญชวนให้ สมาชิกรัฐสภา ข้าราชการ สื่อมวลชน รวมถึงบุคคลทั่วไปในอาคารรัฐสภา ให้ใช้รถใช้ถนนนอย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภายในกิจกรรมได้มีก