THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

03 เมษายน 2565 : 11:05 น.

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเปิดสายด่วน 1330 เตรียมพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิดกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาในช่วงสงกรานต์ หลังพบไทยยังมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อระดับสูงคงตัว

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ฝ่ายปฏิบัติการทั้งหมดปรับระบบการคัดแยกผู้ป่วยโควิด-19 เน้นการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่ม 608 เนื่องจากประเทศไทยยังมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในระดับสูงคงตัวและคาดการณ์ว่า ช่วงหลังสงกรานต์จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย แต่ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังและจัดระบบดูแล

ทั้งนี้ ในส่วนของ สปสช. ได้จัดเตรียมระบบสายด่วน สปสช. 1330 เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ โดยเปิดสายด่วน 1330 กด 18 เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาโดยเฉพาะ ทั้งกลุ่ม 608 เด็ก 0-5 ปี ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง สปสช. จะลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (HI) ให้ก่อน พร้อมประสานหาเตียงเพื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาล

นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุกสิทธิการรักษาที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงให้โทรเข้าที่สายด่วน 1330 กด 14 ทางเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำการรักษาตามอาการ กรณีเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว รักษาแบบผู้ป่วยนอก “เจอแจกจบ” หรือจะเข้าระบบการรักษาที่บ้าน (HI) ก็ได้ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มสีเหลือง-แดงนั้น เข้าเกณฑ์เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต สามารถใช้สิทธิ UCEP Plus รักษาในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ได้ทุกแห่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือโทร. 1669 โดยจะมีการประเมินอาการก่อนว่าเข้าเกณฑ์ผู้ป่วยโควิด-19 สีเหลือง-แดง หรือไม่

“ปัจจุบันสายด่วน 1330 ได้เพิ่มคู่สายเป็น 3,000 คู่สายแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ของ สปสช. และอาสาสมัครจากหน่วยงานอื่นที่ทำหน้าที่รับโทรศัพท์ ซึ่งจำนวนสถิติที่ โทร.เข้าเฉลี่ยวันละประมาณ 30,000 สาย ถือว่าเป็นปริมาณที่มาก แต่ระบบยังสามารถรับได้ จำนวนสายที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้หรือ abandon เป็น 0% นอกจากนี้ สปสช.ยังมีในส่วนของช่องทาง Non Voice เพื่อให้บริการผู้ป่วยผ่านระบบแชททางไลน์ สปสช. @nhso และเฟสบุ๊กสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีประชาชนติดต่อเข้ามาวันละ 10,000-20,000 รายเช่นกัน "นพ.จเด็จ กล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ