THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

13 มีนาคม 2565 : 19:00 น.

มหาดไทยเปิดตัวโครงการส่งเสริมการใช้ผ้าไทยเฉลิมพระเกียรติ 90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเชิญชวนคนไทยแต่งกายด้วยผ้าไทยสีฟ้าทุกวันศุกร์ตลอดทั้งปีเพื่อถวายความจงรักภักดี

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมแถลงเปิดตัวโครงการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีการถ่ายทอดไปยังศาลากลางจังหวัดและจวนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด พร้อมด้วยสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร่วมรับฟัง และร่วมนำเสนอการขับเคลื่อนกิจกรรมการรณรงค์ส่งเสริมการใช้ผ้าไทยในพื้นที่จังหวัด

นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนส่งเสริมการใช้ผ้าไทยเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของคนไทยทุกคน เป็นการแสดงความจงรักภักดีด้วยการปฏิบัติบูชาอย่างง่าย ด้วยการเลือกใช้เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของเครื่องใส่ที่ทักทอ ที่ผลิตจากผ้าไทย เพื่อเป็นการสนองแนวพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า สิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นผู้นำในการฟื้นคืนชีวิตช่างทอผ้า ฟื้นคืนการอนุรักษ์ภูมิปัญญา หัตถศิลป์ หัตถกรรมท้องถิ่น กระทั่งได้รับการสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานโดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการทรงขับเคลื่อนเพื่อที่จะให้พระราชปณิธานที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญยิ่ง คือ การที่จะทำให้คนไทยโดยเฉพาะพี่น้องผู้ที่ทุกข์ยากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ได้นำเอาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษมาผลิต มาถักทอเป็นผ้า เป็นงานหัตถศิลป์ หัตถกรรม สร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้จุนเจือครอบครัว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ จุดกำเนิดของพระราชปณิธานในการส่งเสริมการใช้ผ้าไทย เกิดจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพสกนิกรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในการเสด็จไปเยี่ยมเยียนพี่น้องคนไทยในทุกภูมิภาค ได้ทรงเห็นว่าพสกนิกรส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกรมีฐานะความเป็นอยู่ค่อยข้างลำบาก จึงได้ทรงนำเอาสิ่งที่ทอดพระเนตรเห็น นั่นคือ ผ้าทอที่พสกนิกรสวมใส่มารับเสด็จฯ ในแต่ละครั้ง ซึ่งมีความสวยงาม และมีลวดลายอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันตามภูมิสังคม วัฒนธรรมแต่ละถิ่น มาขับเคลื่อน ส่งเสริม เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2515 เป็นต้นมา ที่อ.นาหว้า จ.นครพนม ก่อกำเนิดจัดตั้งขึ้นเป็น “ศูนย์ศิลปาชีพ” เพื่อที่จะนำเอางานหัตถศิลป์ หัตถกรรม โดยเฉพาะผ้าไทยมาเป็นเครื่องมือทำมาหากิน เกื้อกูลเงินรายได้ พร้อมทั้งทรงช่วยหาช่องทางจำหน่าย นำรายได้คืนสู่ครอบครัวของพสกนิกรผู้ทอผ้าในถิ่นต่าง ๆ

“พระราชปณิธานของพระองค์ท่าน ทรงมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี พวกเราในฐานะที่เป็นข้าราชการที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้มีโอกาสที่ดีและในฐานะพสกนิกรของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัด ต้องเริ่มทำด้วยตัวท่านเอง ตามหลักการ “ผู้นำต้องทำก่อน” และรณรงค์ส่งเสริมให้หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ มวลสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด และพี่น้องประชาชนในจังหวัด ได้มีโอกาสรู้จักผ้าไทยเพิ่มมากขึ้น ผ่านการพูดคุย บอกเล่า กิจกรรมรณรงค์ และการผลิตและเผยแพร่สื่อในลักษณะที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดกระแสความนิยมในการสวมใส่ผ้าไทยเพิ่มมากขึ้น” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ร่วมกันรณรงค์ให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ สวมใส่ผ้าไทยจำนวนวันเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ เช่น จาก 3 วันเป็น 5 วัน จาก 5 วันเป็น 7 วัน เพื่อร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะทำให้ผ้าไทยซึ่งเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยทวีความสำเร็จสมดังพระราชประสงค์ รวมทั้งส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนสวมใส่ผ้าไทย ใช้ข้าวของเครื่องใช้ที่มีส่วนประกอบจากผ้าไทยในทุกโอกาส ในทุกกิจกรรมของชีวิตประจำวัน ส่งเสริมการซื้อขายผลิตภัณฑ์ผ้าไทยของแต่ละจังหวัด เพื่อทำให้เม็ดเงินเกิดการหมุนเวียนไปช่วยเหลือเจือจุนช่างทอผ้าในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 จึงขอให้ทุกจังหวัดได้เชิญชวนประชาชนและทุกภาคส่วน ร่วมกันสวมใส่ผ้าไทยสีฟ้าในทุกวันศุกร์ตลอดทั้งปี” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ด้น ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า โครงการฯ ในครั้งนี้ ไม่เป็นแต่เพียงการสืบสาน รักษา ภูมิปัญญา แต่ยังเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตให้กับลูกหลานได้มีโอกาสไปเรียนหนังสือ มีความรู้ เป็นคนดีของสังคม เป็นคนดีของประเทศชาติ เงินที่เหลือบางส่วนยังเอามาทำนุบำรุงบ้านเป็นปัจจัยหลัก และไว้ใช้ในยามเจ็บป่วย ซึ่งอาชีพทอผ้าเกินครึ่งเป็นอาชีพของสตรีไทย และผ้าไทยแต่ละผืนกว่าจะสวยสดงดงามต้องปลูกต้นหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม นำมัดหมี่มาทอ เรียกว่า ลมหายใจของผู้หญิง ซึ่งเป็นอาชีพที่เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อคงไว้ซึ่งการอนุรักษ์และถ่ายทอดไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานของเราด้วย เพื่อรักษาไว้คู่กับเอกลักษณ์ของชาติไทย

นอกจากนี้ ในการสัมมนาโครงการแม่บ้านมหาดไทยสัญจรภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ผ่านมา ได้มีการระดมความคิด workshop กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์การใช้ผ้าไทยของจังหวัดต่าง ๆ เช่น ใส่ผ้าไทยได้รางวัล ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมการใช้ผ้าไทยที่จะทำให้เข้าถึงประชาชนทุกเพศ ทุกวัย มากยิ่งขึ้น จึงขอเชิญชวนให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยทุกจังหวัดได้ร่วมระดมความคิดร่วมกับสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย ขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ เพื่อให้การส่งเสริมการใช้ผ้าไทยประสบความสำเร็จ ต้องอยู่ที่ทุกคนมีส่วนร่วม ช่วยกันคนละเล็กละน้อย เริ่มตั้งแต่วันนี้มุ่งมั่นทำอย่างต่อเนื่อง และทำตลอดไป เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเพื่อรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ