รมว.ยุติธรรมสั่งต่อยอดทำ"ผงกระท่อม"ส่งออกต่างประเทศ หลังปลดล็อกพืชกระท่อมให้พ้นจากพืชเสพติด เผยขณะนี้มีคนปลูกประมาณ 40,000 ไร่ คิดตัวเลขหนึ่งจะมีรายได้ถึง 108,000 ล้าน

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน"พืชกระท่อม สร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน" โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายสมชาย ศรีวิริยะจันทร์ หัวหน้าสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์ประยุกต์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายคฑาวุธ ทองไทย (อาจารย์ไข่ วงมาลีฮวนน่า) และนายณรงค์ชัย สงไข่ วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรไทยทุ่งนารี จ.พัทลุง เข้าร่วม ณ สำนักงานป้องกันและปรายปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังการการปลดล็อกพืชกระท่อมให้พ้นจากพืชเสพติด ทำให้มีผู้ที่พ้นผิดจากคดีพืชกระท่อมได้ถึง 15,000 คน ช่วงแรกอาจยังกังวลว่าจะมีปัญหาอาชญากรรมหรือปัญหาสุขภาพ แต่เห็นแล้วว่ามีผลดีมาก มีผู้ที่เกี่ยวข้องและใช้กระท่อมเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า มีหมู่บ้านอนุรักษ์พืชกระท่อมถึง 157 หมู่บ้าน และหลังจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมสัญจรล่องใต้ 4 จังหวัด คือ สงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง และจ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถูกใช้เป็นหมู่บ้านทดลองถือว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการปลดล็อกที่รอมานานถึง 78 ปี

"ช่วงที่เจอวิกฤตโควิด-19 เศรษฐกิจ แต่พืชกระท่อมเป็นพืชตัวใหม่ที่ทำเงินได้มหาศาล หากเราปลูก 1 ไร่จำนวน 25 ต้น เก็บใบได้ประมาณ 5,400 กิโลกรัมต่อปี ราคาขายวันนี้กิโลกรัมละ 500 บาท จะมีรายได้ 2.7 ล้านบาทต่อปี ขณะนี้มีคนปลูกอยู่ประมาณ 40,000 ไร่ ดังนั้นปีหนึ่งๆจะมีรายได้จากใบกระท่อมถึง 108,000 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าจากวันที่ปลดล็อกพืชกระท่อม 24 ส.ค.2564 ถึงวันนี้เป็นเวลา 5-6 เดือน เราสามารถเปลี่ยนใบไม้ที่ผิดกฎหมายเป็นเงินได้ถึงแสนล้านบาท ส่วนสเต็ปต่อไปจะต้องต่อยอดทำตลาดเพื่อส่งออกต่างประเทศ ซึ่งในช่วงแรกคงทำกระท่อมบดผง และพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆต่อไป เชื่อว่าอีก 2 ปีการส่งออกจะเพิ่มขึ้น"นายสมศักดิ์ กล่าว

นายวิชัย กล่าวว่า ป.ป.ส.จัดให้มีหมู่บ้านนำร่อง ที่อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี และได้ขออนุญาตอย. และจัดทำหมู่บ้านนำร่อง 157 แห่งขึ้นมาคงพื้นที่ปลูกไว้ 24,000 ไร่ โดยปัจจุบันหลังการปลดล็อกมีพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ไร่ ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ คงต้องใช้เวลาอีกระยะถึงจะมีจำนวนที่พอส่งออกได้ ส่วนความกังวลว่าหากบริโภคแล้วเกิดอุบัติเหตุทางรถหรือไปก่ออาชญากรรม จากข้อมูลของตำรวจและบริษัทประกันภัยยังไม่พบ

ด้านนายสมชาย กล่าวว่า จากงานวิจัยพืชกระท่อมปี 2545พบว่า สามารถใช้ทดแทนสารเสพติดบางประเภทได้ เช่น เฮโรอีน และ เมทแอมเฟตามีนได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการวิจัยผลกระทบต่อสมอง จากการเปรียบเทียบกับผู้ทดลองที่ใช้นานกว่า 1 ปี และผู้ทดลองใช้นานที่สุดคือ 47 ปี โดยใช้การวัดคลื่นสมองเทียบกับคนที่ไม่เคยใช้เลยพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน และยังมีการวิจัยอื่นๆที่เสริมเข้ามา เช่น ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ยาต่างๆ รวมถึงในต่างประเทศมีการใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆที่ไม่ใช่ยา ซึ่งอยู่ระหว่างจัดหาตัวอย่างมาทำการวิจัย

นายคฑาวุธ กล่าวว่าในฐานะคนใต้ที่เติบโตมากับวิถีชีวิตดั้งเดิม ที่ปูย่าตายายเคี้ยวใบกระท่อมเพื่อให้สู้แดด มีกำลังทำไร่ไถนาและเลี้ยงวัว เป็นวิถีดั้งเดิมที่อุดมสมบูรณ์ของสยามประเทศ พืชกระท่อมไม่ได้สร้างเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ยังสร้างวิถีพอเพียงด้วย ตนในฐานะศิลปินนักแต่งแพลง ก็ต้องใช้เพลงสื่อสารออกมา โดยตนได้แต่งเพลง "วันที่รอคอย" เพื่อใช้สื่อสารกับทุกๆคน และวงมาลีฮวนน่าจะไปร่วมงานสัญจร 4 จังหวัดด้วย