THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

21 กุมภาพันธ์ 2565 : 15:52 น.

กระทรวงสาธารณสุขประกาศเตือนภัยโควิดจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อกระจายตัวทั่วประเทศมากขึ้น

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเตือนภัยโควิดระดับ 4 ทั่วประเทศว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประเทศไทยคาดการณ์ 1-2 สัปดาห์นี้ระดับผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับสูงมาจากการรวมกลุ่มกันในการสังสรรค์ โดยขอให้หลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่แออัดหรือพบคนหมู่มาก หากพบว่าตัวเองมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เบื้องต้นขอให้ได้ตรวจด้วยชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยตัวเอง หรือ ATK ได้ทันที การฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม อาจจะไม่เพียงพอต่อการติดเชื้อ ดังนั้น ขอให้ประชาชนไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็วหากครบกำหนดระยะเวลา

ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่ยังคงสูงขึ้นทำให้กระทรวงสาธารณสุขมีความจำเป็นจะต้องยกระดับเตือนภัยโควิด จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 โดยมีมาตรการดังนี้

- งดเข้าสถานที่เสี่ยง

- งดทานอาหารร่วมกัน ดื่มสุราในร้าน

- เลี่ยงไปซื้อของที่มีคนจำนวนมาก เช่น ตลาด ห้าง

- เลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน

- งดร่วมกิจกรรม กลุ่มตามเกณฑ์ต่างๆ

- มาตรการทำงานที่บ้านให้ได้ร้อยละ 50-80- ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัดหากจำเป็นใช้รถยนต์ส่วนตัว

- เลี่ยงไปต่างประเทศ

- หากเข้าประเทศต้องปรับตัวในสถานที่กักกัน

ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและวัยเด็ก วัยเรียน ซึ่งการระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน พบว่า ร้อยละ 53 ไม่มีอาการป่วย ส่วนร้อยละ 47 มีอาการป่วย อาการสำคัญ คือ เจ็บคอ ไอ มีไข้ต่ำ ขณะที่การติดเชื้อในเด็ก พบเพิ่มขึ้นในช่วงอายุ 0-9 ปี ร้อยละ 10.3 อายุ 10-19 ปี ร้อยละ 13.1 แต่ในกลุ่มเด็กอาการหนักไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้สูงอายุหากติดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้กระจายไปยังทั่วประเทศ กลุ่ม 608 เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงหนักหลังติดเชื้อ สำหรับกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมี 18 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งตามที่คาดการณ์ไว้ในฉากทัศน์ เนื่องจากมีการผ่อนคลายในหลายมาตรการ

สถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิดช่วงที่ผ่านมา ถือว่ามีการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียน 5-11 ปี เข็มที่ 1 ฉีดไปแล้ว 394,727 คน คิดเป็น ร้อยละ 7.7 เข็มที่ 2 ฉีดไปแล้ว 13,741 ร้อยละ 0.3 กลุ่มที่มีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข็ม 1 ฉีดไปแล้ว 10,508,486 คน ร้อยละ 82.7 เข็ม 2 ฉีดไปแล้ว 9,903,638 คน ร้อยละ 78.0

ด้าน นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า การรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 2 เท่า แต่ส่วนอาการหนักไม่ได้เพิ่มขึ้น สถานการณ์การใช้เตียงของประเทศ รวมเขตสุขภาพที่ 1-13 รวม 170,000 เตียง โดยผู้ป่วยร้อยละ 50 อยู่ในเตียงระดับ 1 คือกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ขณะที่สัดส่วนการครองเตียงทั่วประเทศ อยู่ที่ร้อยละ 49 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ขณะที่ อัตราครองเตียง ผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง อยู่ที่ร้อยละ 14-15

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ