เชียงใหม่-สถานการณ์โควิดยังน่ากังวลยอดติดเชื้อสูงทุกวันยอดไม่ลดเจอเพิ่ม 253 รายจากATKอีก 1,399 รายสถานศึกษา ครอบครัว ร้านอาหารเครื่องดื่มยังคงเป็นสาเหตุหลัก
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่ม 253 ราย พุ่งสูงต่อเนื่องเกิน 200-300 รายมาตลอดสัปดาห์ โดยเป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK อีก 1,399 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมสะสมแล้ว 216 ราย มีผู้รับการรักษาตามโรงพยาบาลทุกแห่ง 2,057 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 31 ราย ผู้ติดเชื้ออยู่ในระบบ CI จำนวน 2,382 ราย ในระบบ HI จำนวน 8,081 ราย รวมทุกระบบมีติดเชื้อมากกว่า 12,000 ราย รักษาหายวันนี้ 204 ราย
สำหรับ กลุ่มคลัสเตอร์ที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย คลัสเตอร์กลุ่มโรงเรียน ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม คลัสเตอร์กลุ่มร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มพบทั้งหมด 3 ร้าน คลัสเตอร์กลุ่มโรงพยาบาลพบสะสม 17 ราย นอกจากนี้ยังมีการระบาดในกลุ่มคลัสเตอร์อื่น ๆ ได้แก่ ชุมชนหมู่ 13 ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง 7 ราย ฟาร์มหมูหมู่ 2 ต.แม่แตง 7 ราย บริษัทรถยก หนองป่าครั่ง 5 ราย บาเซโลนามอเตอร์เชียงใหม่ ฟ้าฮ่าม 1 ราย สถานสงเคราะห์บ้านเด็กชาย อ.แม่ริม 2 ราย ขณะที่การระบาดในครอบครัว พบเพิ่ม 13 ราย จากครอบครัวในอ.เมืองเชียงใหม่ ออ.หางดง อ.สันกำแพง อ.เชียงดาว อ.สันทราย และอ.ดอยสะเก็ด ส่วนผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า พบเพิ่ม 108 ราย และมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค เชื่อมโยงคลัสเตอร์อีกร่วมร้อยราย
สำหรับ การระบาดโรคโควิด-19 จ.เชียงใหม่ ช่วงนี้ พบการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มมากขึ้นเกินร้อยละ 80 โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย รวมทั้งมีการแพร่ระบาดในครอบครัวเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการติดเชื้อในกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีการเปิดเรียน On Site จึงขอย้ำเตือน 6 มาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสถานศึกษา ประกอบด้วย 1.มีมาตรการคัดกรองวัดไข้ และอาการเสี่ยงก่อนเข้าสถานศึกษา 2.สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาเมื่ออยู่ในสถานศึกษา 3.จัดให้มีจัดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างเพียงพอ 4.จัดระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร 5.ทำความสะอาดห้องเรียน พื้นผิวสัมผัสร่วม เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อระบาดอากาศ และ 6.ลดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เพื่อลดความแออัดที่มีการสัมผัสร่วมกัน
นอกจากนี้ ขอให้ทุกโรงเรียนติดตามสถานการณ์การติดเชื้อของนักเรียน และบุคลากรอย่างต่อเนื่อง หากพบต้องปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับประชาชนก็ต้องไม่หละหลวมในมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการติดเชื้อตามที่กำหนดด้วย