THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

11 กุมภาพันธ์ 2565 : 18:15 น.

นครราชสีมา-รองเลขาธิการนายกฯ ชื่นชมพลังท้องถิ่นเข็มแข็งผนึกเยาวชนร่วมสร้าง “โคราชเมืองน่าอยู่” สสส.หนุน 300 แกนนำเยาวชนสร้างพื้นที่สุขภาวะยั่งยืน เสริมภูมิคุ้มกัน-ลดพฤติกรรมเสี่ยงท้องในวัยรุ่น

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง พร้อมด้วยคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ นำโดย นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการฯ คนที่ 2 และผู้บริหาร สสส. ลงพื้นที่โครงการ “โคราชเมืองน่าอยู่ : คนเข้มแข็ง ท้องถิ่นแข็งแรง” เพื่อร่วมรับฟังการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. และภาคีเครือข่ายระดับพื้นที่ ณ โรงเรียนหินดาดวิทยา ต.หินดาด อ.ห้วยแถลง และ โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม ต.โนนตูม อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ประเด็นตำบลสุขภาวะ การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์  สร้างพื้นที่ทางปัญญา เสริมศักยภาพเด็กเยาวชนในพื้นที่ มีภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักวิชาการ เครือข่ายสถานศึกษา หน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เข้าร่วมกว่า 500 คน

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ยาวนานกว่า 2 ปี ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ดังนั้นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือต่อปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. และภาคีเครือข่าย จึงจำเป็นต้องติดตาม ศึกษา วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาเป็นโจทย์สำคัญในการวางแผนการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลให้ได้มากที่สุด

“สสส. ไม่สามารถขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพได้เพียงลำพัง แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายสนับสนุน และเป็นกำลังสำคัญในการทำงาน โดยเฉพาะภาคีเครือข่ายในระดับจังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการ สะท้อนปัญหาและพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การวางมาตรการแนวทางป้องกันและแก้ไขร่วมกัน ผมเชื่อว่า ความแข็งแรงของชาวโคราช จะจุดประกายให้พื้นที่อื่นๆ เห็นความสำคัญของงานสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาประเทศ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมสุขภาวะให้เกิดขึ้นรอบตัวต่อไป” นายพลพีร์ กล่าว

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานระดับพื้นที่เพื่อสร้างเครือข่ายสุขภาพ สร้างการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เกิดเป็นเมืองแห่งสุขภาวะ โดย จ.นครราชสีมา เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องกว่า 1,000 โครงการ มีเครือข่ายทางสุขภาพกว่า 350 องค์กรในระดับพื้นที่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม โดยเฉพาะการขับเคลื่อนงานตำบลสุขภาวะ เกิดนวัตกรรมรับมือการแก้ไขปัญหาชุมชนครอบคลุม 10 ประเด็น อาทิ ระบบการดูแลเด็กปฐมวัย การจัดการภัยพิบัติ การควบคุมยาสูบ แอลกอฮอล์ และสารเสพติด พัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้สูงอายุ ระบบบริการสุขภาพ รวมถึงสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเครือข่ายชุมชนเป็นส่วนสำคัญในการจัดการป้องกัน และเฝ้าระวังในพื้นที่  

“สสส. ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน มีสุขภาวะทั้งกาย จิต ปัญญาและสังคม มีภูมิคุ้มกันในตัวเองต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ ส่งเสริมให้มีศักยภาพและมีโอกาสสร้างพื้นที่ในการแสดงตัวตน จนสามารถพัฒนาเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ชุมชนและสังคม ปัจจุบันเกิดแกนนำเด็กและเยาวชนในพื้นที่กว่า 300 คน ในการทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่สร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ อาทิ ค่ายเสริมไอเดียสร้างสรรค์ กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต จิตอาสา เชื่อว่าเยาวชนกลุ่มนี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญของชาวโคราชช่วยสร้างสังคมสุขภาวะให้เกิดขึ้นต่อไป นอกจากนี้ยังมีกลไกการทำงานที่เชื่อมกับระบบ “ผู้ว่าฯ ช่วยได้” ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์วัยรุ่นในระดับพื้นที่ ผ่านการรายงานในระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอทำให้ จ.นครราชสีมา เป็น 1 ใน 20 จังหวัดต้นแบบ และทำให้จำนวนท้องวัยรุ่นในพื้นที่ลดลง” ดร.สุปรีดา กล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ