กาญจนบุรี-ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ประชุมหารือตั้งข้อกล่าวหาแก๊งนายพรานโหดล่า 2 เสือโคร่ง ขณะที่อุทยานฯ ยันมีผู้ร่วมกระทำผิด 5 คนพิสูจน์ซากพบกระสุนเจาะกะโหลก พรุ่งนี้บ่ายโมงเปิดหน้าไอ้โม่ง
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.อภิชาติ ศรีทองกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ ผกก.(สอบสวน) ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นายอุเทน บัวโรย และนายธานี จันพลงาม เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ร่วมประชุมแนวทางการดำเนินการทางด้านกฎหมายต่อผู้ต้องหาทั้ง 4 คน
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติจะส่งสำนวนถึงอัยการทองผาภูมิ ให้พิจารณาดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14(2)และมาตรา 31(6) ในข้อหา ฐานร่วมกันเก็บหาของป่า อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต และตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(3) มาตรา 43 ฐานร่วมกันล่อ หรือนำสัตว์ป่าออกไป หรือกระทำให้เกิดอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด
ฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินการกิจการใดๆ เพื่อหาประโยชน์ ตามมาตรา 19(6) และมาตรา 44 ฐาน ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรือ อาวุธใดๆเข้าไป ตามมาตรา 19(7) และมาตรา 45 ฐานยิงปืน หรือทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง ตามมาตรา 19(8) และมาตรา 44 ฐานทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ ตามมาตรา 19(9)และมาตรา 44 และตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าตามมาตรา 17 และมาตรา 92
บรรยากาศในที่ประชุมมีการพูดคุยหารือกันอย่างเคร่งเครียด โดยเบื้องต้นทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทองผาภูมิ ยืนยันว่า มีผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิดในครั้งนี้ที่ยังคงหลบหนี อีก 1 คน รวมเป็น 5 คน แต่จนถึงขณะนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยการแยกสอบ ทั้งหมดก็ยังไม่ยอมเปิดปากให้การซัดทอดถึงผู้ใด และยังคงยืนยันว่ามีเพียงแค่พวกตน 4 คนเท่านั้น แต่คำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ปรากฏว่า ให้การไม่ตรงกันในหลายจุด
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญตัว นายบุญถิ่น จันทร์เขต เจ้าหน้าที่ อปพร.ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้ครอบครองอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ยี่ห้อวินเชสเตอร์ หมายเลขประจำปืน 1526415 มาให้ปากคำ พร้อมตรวจหาคราบเขม่าดินปืน เพื่อเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝงที่ปรากฏอยู่บนอาวุธปืนของกลาง เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวต่อไป
จากการให้ปากคำของผู้ต้องหาทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ล่าเสือโคร่งด้วยการร่วมกันขุดหลุมดักเอาไว้ โดยนำวัวมาวางเป็นเหยื่อล่อ เมื่อเสือโคร่งลงไปในหลุมเพื่อกินเหยื่อ ทั้งหมดก็ใช้อาวุธปืนระดมจ่อยิงใส่จนเสือตาย โดยจากการที่ นางสาวกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ทำการผ่าพิสูจน์ซากเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว เบื้องต้นพบว่า เสือตัวผู้ ถูกยิงที่กะโหลก 2 นัด และที่เขี้ยว 1 นัด ส่วน เสือตัวเมีย ถูกยิงที่กะโหลก 4 นัด
ขณะเดียวกัน นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) รวมทั้งนายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (พญาเสือ) ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้ารวมทั้งให้คำปรึกษาต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (14 ม.ค.) เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.รวมทั้งนายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะเดินทางมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วยตนเอง