บุรีรัมย์-ตำรวจภาค 3 สนธิกำลังหลายหน่ายงานสกัดจับ 2 รถตู้ลอบขนแรงงานเถื่อนหนีเข้าเมือง 36 คนไม่สนโควิด ยอมรับได้ค่าจ้างคันละ 4 พันเตรียมส่งไปทำงานกทม.และพัทยาตามออเดอร์ 

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ตำรวจชุดสืบภาค 3 สนธิกำลังชุดสืบภูธร จ.บุรีรัมย์  ตำรวจ สภ.กระสัง ตำรวจทางหลวง และ ตม.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภว.บุรีรัมย์ ได้สกัดจับกุมรถตู้ 2 คัน ที่บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟแดง(ระกา) ต.บ้านปรือ อ.กระสัง หลังได้รับแจ้งจากสายว่ารถทั้ง 2 คันลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

จากการตรวจสอบภายในรถตู้พบแรงงานต่างด้าวชาวลาวทั้งชายและหญิงนั่งแออัดกันในรถ 36 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมด พร้อมทั้งนายกิตติพล ทองเติม อายุ 30  ปี ชาว อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี และนายบุญทัน วิลามาศ อายุ 54 ปี ชาว อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี คนขับรถตู้ทั้ง 2 คันไปสอบสวนที่ สภ.กระสัง

สอบสวน นายกิตติพล คนขับรถตู้ ยอมรับว่า ได้ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวลาวดังกล่าวมาจริงได้ค่าจ้างขนคันละ 4,000 บาท โดยจะนำไปส่งที่กทม. และพัทยา จ.ชลบุรี ตามคำสั่งของนายหน้าที่ว่าจ้าง ส่วนแรงงานต่างด้าวอ้างว่าเสียค่าหัวคนให้กับนายจ้างคนละ 8,500 – 10,000. บาท ส่วนใหญ่ก็จะไปหยิบยืมเงินคนอื่นมาจ่าย เพราะที่บ้านไม่มีงานทำจึงอยากมาหางานทำที่ประเทศไทย บางคนเคยเดินทางมาทำงานในไทยแล้วได้เงินกลับไปเลี้ยงดูคนที่บ้าน จึงอยากจะมาทำงานอีกโดยไม่สนว่าเป็นช่วงสถานการณ์โควิดระบาด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำประวัติแรงงานต่างด้าวทุกคนไว้  พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำการหรือดำเนินการใดๆซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป” ก่อนจะผลักดันกลับประเทศ ส่วนคนขับรถตู้ทั้ง  2 คน ถูกแจ้งข้อหา“ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น และช่วยประการใดๆให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม และกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป”