สมุทรปราการ-หนุ่มบุรีรัมย์เมาหนักทุกกระจกประตูแบงก์หวังเข้าไปฉกทรัพย์สินโชคร้ายเจอกระจากบาดมือเลือดสาดหนีไปนอนซมหน้าร้านสะดวกซื้อ หนีไม่รอดถูกรวบชดใช้กรรม
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 19 ธันวาตม พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีคนร้ายทุบกระจกประตูธนาคารกสิกร สาขาเทพารักษ์ กม .16 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนดินทางเข้าตรวจสอบ ที่เกิดได้พบว่า กระจกบานประตูทางเข้าธนาคารด้านหน้าถูกทุบจนแตกกระจาย และมีคราบเลือดหยดตามพื้นเป็นทางยาวมาจนถึงหน้าตู้เอทีเอ็มจำนวนมาก และยังพบก้อนหินที่คนร้ายใช้ก่อเหตุตกอยู่ภายในธนาคาร รวมทั้งภายในมีการรื้อค้นข้าวของตามโต๊ะต่างๆ จนข้าวของกระจัดกระจายแต่ไม่มีทรัพย์สินสูญหายแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงได้เดินแกะรอยหยดเลือดมาจนถึงร้านสะดวกซื้อที่อยู่ห่างจากธนาคารที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ได้พบคนร้ายเป็นชายนั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อฝ่ามือข้างขวามีบาดแผลฉกรรจ์และเลือดไหลออกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อโดยแพทย์ได้ทำการเย็บบาดแผลให้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะคุมตัวชายคนดังกล่าวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.บางพลี แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องจากชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา
พ.ต.อ. วิโจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยหลังจากเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ คือนายกฤษฎา มาตรกำจร อายุ 28 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ยอมรับว่าได้ใช้ก้อนหินขนาดใหญ่หนักประมาณ 1 กิโลกรัม ทุบกระจกประตูของธนาคารเพื่อหวังที่เข้าไปเอาเงินสดมาซื้อสุราดื่มแต่เกิดพลาดถูกกระจกบาดเจ็บได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีทรัพย์สินสูญหาย แต่คนร้ายหลังจากที่เข้าไปในธนาคารได้ก็พยายามเดินรื้อหาเงินสดตามเคาน์เตอร์ของธนาคารพอไม่ได้เงิน จึงเดินออกมาหาพนักงานที่ร้านสะดวกซื้อ จากข้อมูลพบว่าชายคนดังกล่าวเป็นลูกค้าประจำที่มาซื้อของในร้านสะดวกซื้อแห่งนี้อยู่เป็นประจำ
ทั้งนี้ ตำรวจพบว่าผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเมาสุรายังไม่สามารถสอบปากคำอย่างละเอียดได้ต้องรอให้เจ้าตัวสร่างจากเมาเสียก่อน จึงจะสอบสวนได้ แต่ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนและทำให้เสียทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป