ชุมพร-ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงใต้นำความห่วงใยของ"ประยุทธ์-อนุพงษ์"ไปมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม เตือน 17 – 19 พ.ย.เตรียมพร้อมอาจมีฝนตกหนัก ย้ำสายด่วนนิรภัย 1784 ช่วยได้
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ศาลาประชาคมอบต.สวี อ.สวี จ.ชุมพร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่จ.ชุมพร โดยมี นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดชุมพร ให้การต้อนรับ และนำตรวจเยี่ยม
นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจ.ชุมพรที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยในขณะนี้ และพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้ตนพร้อมด้วยอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย รวมถึงติดตามการแก้ไขปัญหาการจราจรเส้นทางที่รถไม่สามารถสัญจรผ่านทั้งขาขึ้นและขาล่องภาคใต้ บริเวณทางหลวงหมายเลข 41 พื้นที่ต.สวี อ.สวี ซึ่งพบว่า เครือข่ายในพื้นที่ สามารถแจ้งเตือนภัยพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที และเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นการแก้ไขสถานการณ์ได้ดี
ทั้งนี้ ในช่วงปลายฝนต้นหนาวของภาคกลาง ภาคเหนือ ทำให้ความกดอากาศสูงของประเทศจีนตอนใต้ลงมาเจอกับความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตกที่ภาคใต้ และเมื่อฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มวลน้ำสะสมเกิดสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งในขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานกับหน่วยงานด้านบริหารจัดการน้ำของประเทศ คือ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ทั้งน้ำฝน และน้ำบนฝั่ง โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ติดตามและบริหารสถานการณ์น้ำ (Warroom) ภายในวันอังคารที่จะถึงนี้ ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี เพื่อบูรณาการติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และสามารถส่งข่าว กระจายข่าวให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ อำเภอ และจังหวัด ได้ประสานกับประชาชน เพื่อแจ้งเตือนจะทำให้พวกเราสามารถผ่านช่วงฝนตกหนักในเดือนพ.ย.ตลอดทั้งเดือน จนกระทั่งถึงเดือนธ.ค.กลางเดือน ได้อย่างอุ่นใจ และก็รู้เท่าทันเหตุการณ์ข้างหน้าได้
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในแง่ของการช่วยเหลือเยียวยา ฟื้นฟู ได้สั่งการให้ทางจังหวัดชุมพร ร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้ง ปภ. ท้องถิ่น กองทัพบก รวมทั้งอาสาสมัครมวลชนต่าง ๆ เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของความสะอาดของถนนหนทาง และสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ที่จะทำให้เกิดโรคระบาด ควบคู่กับการเข้าไปฟื้นฟูเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้อยู่อาศัยในบ้านเรือนได้อย่างปกติสุขในเวลาอันรวดเร็ว ตลอดถึงการอำนวยความสะดวกในการจัดตั้ง Fix it Center ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน เข้าซ่อมแซม ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ที่เกิดความเสียหาย และขอให้จังหวัด อำเภอ ประสานหน่วยงานสาธารณสุข อสม. ดูแลสุขภาพของประชาชนให้ระมัดระวังโรคที่มาจากน้ำ ลงพื้นที่ช่วยดูแลประชาชน
อย่างไรก็ตาม ขอฝากให้พี่น้องประชาชนได้ช่วยกันใช้บริการแจ้งขอความช่วยเหลือศูนย์ฮอตไลน์ สายด่วนนิรภัย 1784 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ไม่เฉพาะในช่วงน้ำท่วม รวมทั้งเรื่องถนนหนทาง ไฟไหม้ อุบัติเหตุ ด้วย แต่ถ้าเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร. 1669 และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ขอให้ผ่านอุปสรรคในครั้งนี้ไปอย่างราบรื่น ที่สำคัญที่สุดขอให้พวกเราช่วยเหลือกัน ไม่ทอดทิ้งกัน
นายสุทธิพงษ์ กล่าวย้ำว่า ได้รับทราบจากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาและจากการแจ้งเตือนของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำว่า ในช่วง 2-3 วันข้างหน้าอาจจะมีฝนตกหนักอีก (17 – 19 พ.ย.) จนถึงปลายเดือนพ.ย. จึงขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ช่วยกันเคลื่อนย้ายสิ่งของที่อยู่ในที่ต่ำที่ลุ่มให้ไปอยู่ในที่สูง ถ้าบ้านเรือนเป็นบ้านชั้นเดียวหรืออยู่ในที่ต่ำ สามารถแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เข้าไปช่วยเหลือ หรือโทร. 1784 จะมีกำลังของ อปพร. อาสาสมัครของมูลนิธิการกุศล เข้าไปช่วยขนย้าย นอกจากนี้ สาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในช่วงน้ำท่วม คือ “ไฟช็อต” จึงขอให้ทางจังหวัดและสื่อมวลชนได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการดูแลอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้